“ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี ยอดดาวรุ่งชาวไทยในโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีมของ “เอ.พี.ฮอนด้า” ฉายแววเจิดจรัสในศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย หลังควบรถแข่ง CBR250RR ผงาดคว้าแชมป์แรกของตนเองในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. เรซสองของสนามที่ 3 ได้ร้องเพลงชาติไทยฉลองกับแฟนๆ ในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สนามช้างฯ จ.บุรีรัมย์
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประจำทวีปเอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 เดินทางเข้าสู่สนามที่ 3 ของปี โดยมีคิวดวลความเร็วระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม-2 มิถุนายนนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร
การแข่งขันเรซที่ 2 ของรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. มีขึ้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนักบิดสาวแกร่งชาวไทยอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช หมายเลข 44 จาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เป็นเจ้าของโพลโพซิชั่น ขณะที่สองทีมเมทดาวรุ่งอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 149 และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 188 ได้ออกตัวในกริดที่ 3 และ 5 ตามลำดับ
ออกสตาร์ทเรซนี้ด้วยการขยับขึ้นนำของ มุกข์ลดา ที่ออกตัวได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย ตามด้วยทีมเมทดาวรุ่งอย่าง ธัชกร ทว่าจุดเปลี่ยนสำคัญของเรซนี้เกิดขึ้นในรอบที่ 3 เมื่อ มุกข์ลดา มีปัญหากับรถแข่งต้องออกจากเรซอย่างน่าเสียดาย
โดยตำแหน่งหัวแถวเป็นการขึ้นนำของ ธัชกร ซึ่งมี เออร์ฟาน อาร์เดียนส์ยาห์ และ อาห์วิน ซานจาย่า ตามไล่บี้อย่างหนัก ก่อนที่ อาร์เดียนส์ยาห์ จะขยับแซง ธัชกร ขึ้นมาเป็นผู้นำได้ในรอบที่ 5 ทว่านักบิดไทยก็มาเอาคืนได้อีกครั้งในรอบเดียวกัน
อย่างไรก็ดี เกมในเรซนี้ดวลกันอย่างเข้มข้นจนถึงรอบสุดท้าย โดย ธัชกร นั้นรั่วงลงไปถึงอันดับ 4 ในรอบสุดท้าย ทว่านักบิดดาวรุ่งชาวไทยสามบทโหดไล่แซงคู่แข่งทีเดียว 4 คันรวด ก่อนควบรถแข่ง CBR250RR เข้าป้ายเป็นคันแรก ผงาดคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลให้กับตนเองได้สำเร็จ เฉือนอันดับ 2 อย่าง อาห์วิน ซานจาย่า เพียง 0.310 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มูฮัมหมัด แฟโรซี ทอเกโกต์ ตามหลังแชมป์ 0.567 วินาที ด้าน ปิยวัฒน์ ไล่บี้ในกลุ่มกลางได้อย่างดุเดือด คว้าอันดับ 7 ตามหลังแชมป์ 1.191 วินาที เท่านั้น
ทั้งนี้ การคว้าแชมป์ครั้งแรกของ ธัชกร ในการแข่งขันรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ แบบเต็มฤดูกาลครั้งแรกในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. นับเป็นการสะท้อนความสำเร็จขั้นสำคัญของโครงการ “เรซ ทูเดอะ ดรีม” ของ เอ.พี.ฮอนด้า ซึ่งวาางรากฐานพัฒนานักบิดจากระดับเยาวชน สู่การแข่งขันจักรยานยนต์ระดับนานาชาติไว้อย่างแข็งแรง โดยเป้าหมายสำคัญคือการผลักดันให้มีนักบิดไทยใน โมโตจีพี ภายในปี 2025
ผ่านการแข่งขัน 3 สนาม (6 เรซ) มุกข์ลดา ที่แม้จะไร้แต้มจากเรซที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ บุรีรัมย์ ยังคงอยู่ในสถานการณ์ลุ้นแชมป์ที่สดใส รั้งอันดับ 2 บนตารางแชมเปี้ยนชิพในคลาส เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซี.ซี. มีทั้งสิ้น 86 คะแนน ตามจ่าฝูงอย่าง แอนดี้ มูฮัมหมัด ฟาดลี เพียง 1 แต้ม ขณะที่ ธัชกร ซึ่งคว้าแชมป์แรกให้ตนเองขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 มี 74 คะแนน ตามหลังหัวแถว 13 แต้ม ส่วน ปิยวัฒน์ รั้งอันดับ 11 มี 39 คะแนน
สำหรับการแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไปจะโยกไปดวลความเร็วกันที่ ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 28-20 มิถุนายนนี้