“มาสด้า” เฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ของการถือกำเนิดรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนาน Mazda MX-5 แบรนด์ไอคอนที่ถ่ายทอดความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนกับรถตามแนวคิด จินบะ อิไต (Jinba-Ittai) อันเลื่องชื่อของมาสด้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ และนำไปสู่การพัฒนารถยนต์ทุกรุ่น เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์ที่มอบความสนุกสนานในการขับขี่อย่างแท้จริง
โดยเผยโฉม Mazda MX-5 รุ่นพิเศษ 30th ANNIVERSARY ในงาน Chicago Auto Show ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองที่เป็นแหล่งกำเนิดของ Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นแรก เรียกเสียงปรบมือได้กึกก้องด้วยความงดงามของอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โดดเด่นสไตล์สปอร์ตหรู ด้วยสีส้มใหม่ Racing Orange เพิ่มคุณค่าแห่งการครอบครองด้วยยอดการผลิตเพื่อจำหน่ายเพียง 3,000 คัน ทั่วโลก โดยจะมีแฟนชาวไทยเพียง 12 คน เท่านั้นที่จะได้เป็นเจ้าของ แบรนด์ไอคอนรุ่นพิเศษนี้
นายชาญชัยตระการอุดมสุขประธานบริหารมาสด้าเซลส์ประเทศไทย กล่าวว่า Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นแรก หรือที่แฟนพันธุ์แท้เรียกว่า NA เปิดตัวในงาน Chicago Auto Show เมื่อปี1989 โดยทีมพัฒนาและออกแบบของมาสด้า ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถสปอร์ตเปิดประทุน น้ำหนักเบา ให้ความสนุกสนานในการขับขี่ หรูหราสง่างาม ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อให้บรรลุตามโจทย์ที่ตั้งไว้ทุกประการ จึงทำให้ Mazda MX-5 เป็นรถเปิดประทุน สองที่นั่ง มาพร้อมกับเอกลักษณ์ไฟหน้าแบบ Pop-Up ได้รับความนิยมจากแฟนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ยอดขายเติบโตขึ้นเกินคาด
ไม่เพียงเท่านี้ ทีมงานยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องจนถือกำเนิดเจนเนอเรชั่นที่ 2 (NB) เปิดตัวครั้งในงาน Tokyo Motor Show ในปี 1997 ด้วยรูปทรงไฟหน้าที่เปลี่ยนไป ต่อมาเจนเนอเรชั่นที่ 3 (NC) ได้เปิดตัวในงาน Geneva Motor Show ในปี 2005 โดยเพิ่มรุ่นหลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (Retractable Hard Top) และเพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อ Mazda MX-5 การเปิดตัวของเจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND) จึงเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งที่ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ในปี 2014 เริ่มจากรุ่นหลังคาผ้า ต่อเนื่องด้วยเปิดตัวในรุ่นหลังคาแข็งแบบ Retractable Fastback เพิ่มเติม ได้รับความชื่นชอบจากแฟนๆ เป็นอย่างมาก
Mazda MX-5 ยังการันตีคุณภาพด้วยรางวัลระดับโลกมากมาย อาทิ รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2015-2016 (Japan Car of the Year) ต่อด้วยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีประเทศอังกฤษ (2016 UK Car of the Year) รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลก และรางวัลรถยนต์ออกแบบยอดเยี่ยมของโลกประจำปี 2016 (World Car of the Year, World Car Design of the Year) ความนิยมยังคงเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกจนกระทั่งยอดผลิตของ Mazda MX-5 สูงถึง 1 ล้าน คัน ในปี 2016 และถูกบันทึกสถิติโดย Guinness World Records ในการเป็นโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลก
โดยปกติแล้ว Mazda MX-5 จะผลิตรุ่นพิเศษในโอกาสครบรอบต่างๆ เพิ่มการตกแต่งด้วยชุดแต่ง และสีตัวถังพิเศษ เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนพันธุ์แท้ของ Mazda MX-5 ทั่วโลก สำหรับรุ่นพิเศษครบรอบ 30 ปีนั้น ได้ผลิตเพื่อจำหน่ายเพียง 3,000 คัน ทั่วโลกเท่านั้น ดีไซน์ภายนอกยังคงความเรียบง่าย แต่มีรสนิยมสไตล์รถสปอร์ตหรู โดดเด่น สะดุดสายตาด้วยสีส้มใหม่ Racing Orange ที่ปรุงแต่งต่อยอดจากสีเหลืองของ Mazda MX-5 เจนเนอเรชั่นแรก เสมือนแสงรุ่งอรุณของวันใหม่ เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะคันด้วยป้ายสัญลักษณ์ที่ระบุข้อความ 30th ANNIVERSARY ตามด้วยเลขเฉพาะของแต่ละคัน บ่งบอกถึงการมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
Mazda MX-5 รุ่นพิเศษตกแต่งด้วยชุดแต่งคุณภาพสูง อาทิ คาลิปเปอร์ดิสค์เบรกหน้าแบรนด์ Brembo และเบรกหลังสีพิเศษ, ล้ออัลลอย RAYS (forged) ขนาด 17 นิ้ว, สปอร์ตหรูยิ่งขึ้นด้วยหลังคาสีดำพิเศษ ภายในห้องโดยสารให้อารมณ์การขับขี่สไตล์รถสปอร์ตอย่างเต็มเปี่ยมด้วยเบาะนั่งคู่หน้า RECARO เพิ่มผิวสัมผัส ALCANTARA ที่ตำแหน่งคอนโซลหน้าและแผงประตู อีกทั้งยังมีกรอบช่องแอร์สีพิเศษ พวงมาลัย หัวเกียร์ และแผงประตู ได้รับการตกแต่งด้วยด้ายสีพิเศษ และรองรับการใช้งาน Apple CarPlay สมรรถนะการขับขี่ยังคงรักษาจุดแข็งของความเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขับสนุกกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี เบนซิน 2.0 ลิตร และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้นคันทั้ง i-ACTIVSENSE และ MZD CONNECT ในราคาจำหน่ายประมาณ 3.1 ล้านบาท เชื่อว่าลูกค้า 12 คน ที่ได้ครอบครอง Mazda MX-5 รุ่นพิเศษ 30th ANNIVERSARY คงจะภาคภูมิใจไม่น้อย