อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดอิตาเลียนจาก มิสชั่น วินนาว ดูคาติ ออกโรงโต้ข้อสงสัยในความดุดันของตนเอง หลังจบเรซที่ แอสเซ่น ในอันดับ 4 พร้อมเผยว่าเค้นสุดความสามารถทุกเรซ ชี้ “จีพี19” แก้จุดอ่อนในโค้ง มีลุ้นโพเดี้ยม ซัคเซนริง
นักบิดอิตาเลียนออกสตาร์ทจากกริดที่ 11 ก่อนจะขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ได้ตั้งแต่ช่วนต้นของการแข่งขัน และทำเวลาต่อรอบใกล้เคียงกับกลุ่มนำได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าหลังผ่านครึ่งทางการแข่งขัน ขีดการต่อสู้ของ โดวิซิโอโซ กลับลดลงไปอย่างมาก
โดวิซิโอโซ เผยว่า เขาถูกมองจากคนทั่วไปว่า มักจะไม่ดุดันมากพอ โดยเฉพาะกับการแข่งขันที่ แอสเซ่น ซึ่งนักบิดอิตาเลัยนได้ออกโรงโต้แย้งเรื่องนี้อย่างเต็มที่
“ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าผมไม่พยายาม หรือไม่ดุดันมากพอที่จะหาผลการแข่งขันที่ดีกว่านีเ (ที่ แอสเซ่น)” โดวิซิโอโซ เปิดเผยก่อนเข้าสู่การแข่งขันที่ เยอรมนี
“แต่นั่นไม่เป้นความจริง ผมหมายความว่า หากคุณไม่มีความเร็วมากพอที่จะอยู่ในกลุ่มหน้า มันจะไม่เกี่ยวกับเรื่องความดุดันเลย”
“มีอยู่ 12 รอบเต็มๆ ที่ผมเค้นเต็มร้อย และผมก็ทำเวลาต่อรอบได้เท่ากันกับ 3 นักบิดในกลุ่มกน้า ผมมันไม่ใช่สำหรับขีดการต่อสู้ที่เรามี”
“นั่นคือความจริง หากคุณเห็นผมอยู่อันดับ 4 และตามหลังกลุ่มนำแค่ 0.3 วินาที และหลังจาก 12 รอบแรก ผมเริ่มช้าลงเพราะผมขี่อย่างเต็มร้อยในช่วงแรก”
“สไตล์การขี่ของผมมันสมูธมากๆ และมันจะไม่ได้แสดงให้เห้นถึงความดุดัน ซึ่งมันจะดูเหมือนผมไม่ผลักดันตัวเองแบบเต็มร้อย”
“แต่ผมคือนักบิดดูคาติที่เร็วที่สุด แล้วผมต้องทำอะไรมากไปกว่านี้ ผู้คนส่วนใหญ่ดูการแข่งชันแบบไม่เข้าใจ”
“นักบิดทุกคนมีสไตล์การบิดที่แตกต่างกัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเขาบิดไม่เต็มร้อยนะ”
ดูคาติ ไม่สามารถคว้าชัยชนะที่ ซัคเซนริง มาครองได้นับตั้งแต่ปี 2008 กับจุดอ่อนของรถแข่ง เดสโมเซดิซี ในการเข้าโค้งที่เป้นรองคู่แข่งในสนามแห่งนี้
อย่างไรก็ดี โดวิซิโอโซ ที่ขึ้นโพเดี้ยมที่ ซัคเซนริง มาได้ถึง 2 ครั้ง เชื่อว่า ดูคาติ มีการยกระดับขึ้นมาแล้วในจุดอ่อนดังกล่าว โดยเขาเชื่อว่าจะสามารถต่อสู้ในสนามแห่งนี้เพื่อโพเดี้ยมได้อีกครั้ง