“มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่งชาวไทยจับคู่ดาวรุ่งจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” อย่าง “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ควบรถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 149 พาทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ผงาดคว้าแถวหน้าในศึกเอ็นดูรานซ์สุดโหด รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ก่อนลุ้นแชมป์ประวัติศาสตร์ วันเสาร์นี้ที่ประเทศญี่ปุ่น
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบมาราธอนนานาชาติสุดหฤโหด รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 มีคิวดวลความอึดปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 25-27 กรกฎาคมนี้ ที่สนาม ซูซูกะ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น ระยะทาง 5.821 กม. ต่อรอบ โดยนับเป็นซัพพอร์ทเรซสุดมันส์ของรายการ เอ็นดูรานซ์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง ซูซูกะ 8 ชั่วโมง ในสุดสัปดาห์เดียวกัน
ล่าสุดในวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ยอดทีมแข่งไทยร้อยเปอร์เซ็นต์นำโดย “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ยอดนักบิดสาวแกร่ง ที่จับคู่กับ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ นักบิดดาวรุ่งจากโครงการ เรซ ทู เดอะ ดรีม ลงทำการแข่งขันรอบควอลิฟายภายใต้รถแข่ง Honda CBR600RR หมายเลข 149
ตามกฎการแข่งขันของ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ ระบุให้มีการควอลิฟาย 2 ช่วง สำหรับนักบิดทั้่ง 2 คน เพื่อเอาเวลามารวมกันเพื่อใช้จัดอันดับสตาร์ท โดย “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ทำหน้าที่เป็นนักบิดคนแรกที่ลงจับเวลาในรอบควอลิฟาย Q1 ก่อนจะสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม รั้งอันดับ 2 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 17.486 วินาที ตามหลังผู้นำเพียง 1.569 วินาทีเท่านั้น
ส่วน “มุกข์” มุกข์ลดา ลงทำหน้าที่เป็นนักบิดคนที่ 2 เพื่อจับเวลาในรอบควอลิฟาย Q2 โดยสามารถกดเวลามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 17.031 วินาที เหนืออันดับ 2 อยู่ 0.496 วินาที
เมื่อรวมผลการควอลิฟายทั้ง 2 ช่วง ปรากฏว่า เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 2 ในศึก ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 ด้วยเวลาเฉลี่ย 2 นาที 17.258 วินาที มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ในนามทีมคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนตำแหน่งโพลเป็นของ ยามาฮ่า อินโดนีเซีย & อิโตะ เรซซิ่ง ด้วยเวลา 2 นาที 16.810 วินาที
นายอารักษ์ พรประภา รองกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยหลังจบการควอลิฟายว่า “ปีนี้การทำงานมีความก้าวหน้าขึ้น เราคือทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับผลควอลิฟายวันนี้ถือว่าทำได้น่าพอดี ทีมงานและนักบิดของเราทั้ง มุกข์ลดา และ ปิยวัฒน์ ทำผลงานได้ดีกว่าเดิมมาก จากการเรียนรู้ความผิดพลาดในปีที่ผ่านมา ซึ่งผมเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ รอบชิงชนะเลิศของ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เราจะสามารถคว้าแชมป์ไปฝากคนไทยได้
มุกข์ลดา เผยหลังกดเวลาเป็นอันดับ 1 ในรอบควอลิฟาย 2 ว่า “ค่อนข้างพอใจกับเวลาที่ทำได้ในการควอลิฟาย และการทำงานโดยรวมของทีมที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ต้องขอบคุณทีมงานที่ทำงานกันอย่างหนัก จนได้รถแข่งที่ออกมาสมบูรณ์แบบ ในวันพรุ่งนี้สิ่งที่น่ากังวลคือสภาพอากาศ ที่จะส่งผลต่อการเซ็ตอัพ ซึ่งพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกตั้งแต่เช้า โดยเราเองก็ทำกานบ้านและเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว เชื่อว่าจะสามารถต่อสู้เพื่อโพเดี้ยมได้”
สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของศึก ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019 จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้ โดยสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ได้ที่ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand ตั้งแต่เวลา 06.20 – 11.30 น.
ผลการควอลิฟาย ซูซูกะ 4 ชั่วโมง เอ็นดูรานซ์ เรซ 2019