“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ จอมเก๋าอิตาเลียนวัย 40 ปี ยืนยันว่า ยามาฮ่า ได้เริ่มแสดงความเปลี่ยนแปลงในการทำงานที่ดีขึ้นกับ M1 หลังผ่านช่วงซัมเมอร์เบรก ขณะ ทาคาฮิโร ซูมิ เฮ้ดใหญ่ด้าน โมโตจีพี ชี้พบจุดเปลี่ยนสำคัญพาทีมสู่อนาคตเพื่อลดช่องว่างจาก ดูคาติ และ ฮอนด้า
รอสซี่ เจอสถานการณ์สุดย่ำแย่ในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 2019 หลังจากไม่จบการแข่งขัน 3 สนามติดต่อกัน จากนั้นก็มาคว้าได้เพียงอันดับ 8 ที่ ซัคเซนริง
ทว่า จอมเก๋าชาวอิตาเลียนคัมแบ็กจากช่วงซัมเมอร์เบรก ด้วยการปรับปรุงผลงานได้ดีขึ้นอย่างต่อด้วย จบการแข่งขันอันดับ 6 ที่ เบอร์โน และ คว้าอันดับ 4 ที่ เรดบูลล์ ริง
รอสซี่ เปิดเผยที่ ออสเตรีย ว่า ยามาฮ่า มีความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากช่วงซัมเมอร์เบรก และทำให้สามารถขยับสเต็ปได้เล็กน้อยในด้าน “อัตราเร่ง”
“เราแฮปปี้กันสุดๆ โดยเฉพาะการพัฒนาในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ที่ดูเหมือนจะทำให้เรามีผลงานที่ดีขึ้น เพราะในเลกแรกเราผลงานย่ำแย่มากๆ” รอสซี่ เผย หลังกู้สถานการณ์จากกริดที่ 10 ขึ้นมาคว้าอันดับ 4 ที่ ออสเตรีย
“ดูเหมือนว่าบางสิ่งมีการขยับตัวในทีมของ ยามาฮ่า พวกเขาก็ทำงานกันหนักขึ้น และดีกว่าเดิมเพื่อปรับปรุงรถแข่ง”
“เมื่อเรามาถึงที่นี่ ในวันศุกร์เราเข้าใจแนวทางที่จะทำให้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดีขึ้น และเราสามารถสร้างจุดแข็งในเรซได้มากกว่าเดิม เพราะเรามักมีปัญหาเสมอในแทร็กแห่งนี้”
“นี่คือสิ่งสำคัญมาก แน่นอนว่าเรามีงานมากมายต้องทำ เพราะทั้ง อันเดรีย โดวิซิโอโซ และ มาร์ค มาร์เกซ ต่างก็เร็วกว่าเรา แต่นี่ถือเป็นการออกสตาร์ทในเส้นทางที่ดี”
ด้าน ทาคาฮิโร ซูมิ ซึ่งก้าวขึ้นมาแทนที่ โคอุจิ ซึยะ เมื่อปีที่ผ่านมา ในฐานะหัวหน้าทีมทำงาน โมโตจีพี ของ ยามาฮ่า กล่าวว่า “จุดเปลี่ยน” เกิดขึ้นในศึก ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อทีมได้ออกมา “กล่าวคำขอโทษ” ต่อนักบิดหลังจากเจอหายนะในรอบควอลิฟาย
“หลังหายนะครั้งนั้นในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นที่ เรดบูลล์ ริง เราต้องเจอวิกฤตอย่างมากในตอนนั้น” ซูมิ เผย
“นั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของเราที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงรถแข่ง เราได้เปลี่ยนแปลงความเชื่อชของพวกเราในการพัฒนารถแข่ง”
“ตอนนี้เราเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็กไๆ แต่หลายอย่าง การเปลี่ยนแปลงใน ยามาฮ่า คือ … รถแข่งของยามาฮ่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม แต่ในฐานปฏิบัติการของ ยามาฮ่า เรามีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม”
“เราเข้าใจดีถึงความท้าทายนี้ และรู้ดีว่าเรายังอยู่ในสถานการณ์วิกฤต”
รอสซี่ แสดงท่าทีเห็นด้วยกับ ซูมิ ว่า ยามาฮ่า นั้นกำลังทำงานได้ดีขึ้นในปีนี้ มันทำให้เขา “มองสถานการณ์ในแง่ดี” ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง
“มันคือเรื่องที่น่าสนใจมากกับสิ่งที่ ซูมิ-ซัง บอก ผมเห็นด้วยกับเขา” นักบิดวัย 40 ปี เผย
“มันไม่ใช่แค่ในปี 2018 แต่มันเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2017 ที่เราทำงานได้ไม่ดี ไม่แข็งแกร่งพอ และเราก็ทำงานได้ไม่ตรงจุด ระยะห่างจากหัวแถวจึงมากขึ้นเรื่อยๆ”
“ดูเหมือนปีนี้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงนั้นต่างออกไป เช่นเดียวกับบุคลากร และการจัดการภายใน ซึ่ง ยามาฮ่า มีความพยายามมากขึ้น”
“ทั้งความรู้สึกและสิ่งที่ผมพูดไป ผมรู้สึกในแง่บวกเพราะดูเหมือนจะมีบางสิ่งเปลี่ยนแปลง และตอนนี้เราต้องการเวลา แต่เสียดายที่ผมมีเวลาไม่มากนัก ดังนั้นเราจะพยายามให้ถึงที่สุดกับเวลาที่เรามี”
“เราต้องการผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นเราจึงต้องปรับปรุง แต่นี่คือทิศทางบวก เพราะเราได้พัฒนาและเริ่มงานกับรถต้นแบบปี 2020 และผมคิดว่าเรากำลังเริ้มต้นไปสู่การทำงานที่ดี”