อเล็กซ์ รินส์ นักบิดสแปนิชจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ ออกอาการดีใจจนเก็บไม่อยู่ เผย “แทบไม่เชื่อตัวเอง” ว่าเอาชนะ 2 ตำนานโมโตจีพีอย่าง วาเลนติโน รอสซี่ และ มาร์ค มาร์เกซ ชี้รถแข่ง GSX-RR อยู่ในจุดที่สามารถคว้าแชมป์ได้ แต่ต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง
หลังจากคว่ำ วาเลนติโน รอสซี่ แชมป์โลก 9 สมัยจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ได้ในการแข่งขันที่ ออสติน จนสามารถคว้าแชมป์แรกให้กับตนเองในศึก อเมริกาส์ จีพี, รินส์ นักบิดหัวฟู ก็สร้างผลงานระดับมาสเตอร์อีกครั้ง ในการเฉือน มาร์ค มาร์เกซ ที่หน้าเส้นชัย คว้าแชมป์ บริติช กรังด์ปรีซ์ ไปแบบสะใจแฟนๆ ซูซูกิ ทั่วโลก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
รินส์ ไล่ตาม มาร์เกซ ตั้งแต่รอบที่ 3 ก่อนจะมาพลิกเอาชนะได้ในโค้งสุดท้าย ปาดหน้าเข้าเส้นชัยไปเพียง 0.013 วินาทีเท่านั้น โดยนับเป็นชัยชนะในพรีเมียร์คลาสครั้งที่ 2 ของ นักบิดซูซูกิ และเป็นการถูกเฉือนเอาชนะเช่นนี้ครั้งที่ 4 ของ มาร์เกซ ด้วย
”ไม่น่าเชื่อ ผมแทบไม่เชื่อตัวเอง ผมเพิ่งคว่ำ 2 ตำนานโมโตจีพี อย่าง วาเลนติโน ที่ เท็กซัส และล่าสุดคือ มาร์เกซ ที่ ซิลเวอร์สโตน มันบ้ามากๆ” รินส์ เผยด้วยความตื่นเต้นหลังจบเรซเมื่อวันอาทิตคย์ที่ผ่านมา
นักบิดหัวฟูชาวสแปนิชยืนยันว่า รถแข่งซูซูกิ ของพวกเขามีศักยภาพพอที่จะชนะการแข่งขันได้ และตอนนี้ก็เข้าสู่ภาวะที่ควรจะเป็น หลังจากแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการไล่บี้กับ มาร์เกซ ตลอดทั้งเรซที่ ซิลเวอร์สโตน
“ผมเอาชนะเขาได้ในวันนี้ แต่เราต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ผมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยาก ผมสร้างความผิดพลาดในบางจุด และเกือบล้มในโค้งแรก”
“สองรอบสุดท้าย ผมไล่ตาม มาร์เกซ ติดมากๆ ผมคิดว่ามันจบเรซแล้วเสียอีก แต่มองไปที่พิตบอร์ดกลับยังเหลืออีก 1 รอบ และคิดในใจว่า โอ๊ววว อเล็กซ์ ฮึดอีกหน่อย เค้นเข้าไปอีก”
“ผมสามารถร่นระยะเวลาลงได้เยอะมากในเซ้คเตอร์ 1 และ 2 เมื่อเข้าสู่เซ็คเตอร์สุดท้าย มาร์ค แข็งแกร่งกว่าผมมาก แต่ในโค้ง 16 ของรอบสุดท้าย เขาเบรกหนักมาก ซึ่งทำให้ผมมีโอกาสแซง และเราก็ทำได้ใมนการเร่งออกจากโค้งสุดท้าย”
“ผมมีความมั่นใจอย่างมากกับรถแข่งซูซูกิของผมในตอนนี้ เราทำงานกันอย่างหนักตลอดทั้งสุดสัปดาห์ นับตั้งแต่การซ้อมครั้งแรก เพื่อหาความรู้สึกที่ถูกต้องกับรถแข่ง ผมสามารถเล่นกับรถแข่งได้หลากหลาย โดยเฉพาะการใช้เบรกหนักๆ”
“การล้ม 2 ครั้งล่าสุดที่ แอสเซ่น และ ซัคเซนริง เกิดขึ้นในตอนที่ผมพยายามจะต่อสู้เพื่อขึ้นสู่หัวแถว เพราะเรามีความมั่นใจมากๆ แต่ก็พลาดจนได้ ซึ่งในตอนนี้การขับขี่เป็นไปด้วยความสะบายใจ และง่ายขึ้น ดังนั้นผมจังสามารถตามมากได้ตลอดทั้งเรซ”