อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง พร้อมด้วย เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับเม็กซิกันจาก เรซซิ่ง พอยต์ ถูกกรรมการควบคุมการแข่งขันเรียกพบหลัง เบียดแซงกันช่วงท้ายเรซ โดยพบนักขับไทยถูกเบียดออกนอกแทร็ก เจ้าตัวชี้ไม่มีความขัดแย้งใดๆ เพราะเป็นเพียง “เกมของ DRS”
อัลบอน ออกหมัดรุกใส่ เปเรซ ในรอบสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ในช่วงทางตรง Kemmel Straight มุ่งหน้าสู่ Les Combes ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการตัดสินอันดับ 5
โดยขณะที่ อัลบอน เดินคันเร่งจ่อท้ายคู่แข่ง เขาเบี่ยงออกทางขวาเพื่อแซง ทว่ากลับโดนบีบให้ล้อขวาหลุดออกนอกแทร็กลงไปบนพื้นหญ้า แต่นักขับไทยยังสามารถประคองรถ RB15 และแซงผ่านขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ได้สำเร็จกับเรซแรกของตนเองในตั้นสังกัดใหม่ เรดบูลล์ เรซซิ่ง
นักขับทั้งสองคนถูกเรียกตัวเข้าพบ เรซ ไดเร็กเตอร์ เพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่า “เขาถูกบังคับให้ออกไปนอกแทร็กโดยนักขับอีกคน ระหว่าง โค้ง 4 ต่อเนื่องไปโค้ง 5 หมายถึงจากรถแข่งหมายเลข 11 (เปเรซ) ที่เบียดใส่หมายเลข 23 (อัลบอน)” และนี่คือแถลงการณ์ของ เอฟไอเอ ต่อเหตุกรณ์ดังกล่าว
จากคำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้ อัลบอน ยังคงรักษาอันดับ 5 ไว้ได้โดยไร้ข้อกังขา
นักขับไทยเปิดเผยผ่าน Sky Sports F1 ว่า “เราเริมต้นเล่นเกม DRS ใส่กันตั้งแต่โค้งแรก ก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่เซ็คเตอร์ที่ 2 และเห็นได้ชัดว่า เปเรซ ต้องการใช้ DRS และ เรซซิ่ง พอยต์ ก็แข็งแกร่งมากในทางตรง ดังนั้นมันจึงเหมือนระบบ VSC ถูกรีสตาร์ท”
“เรซซิ่ง พอยต์ เร็วมากๆ ในทางตรงตลอดทั้งสุดสัปดาห์ ดังนั้น มันจึงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นหลังจากผ่านโค้งแรกของรอบสุดท้าย”
“เราไล่ตาม เซอร์จิโอ ได้ในความเร็วที่ดี หลังผ่าน โอ-รูจ และหวังว่าเขาจะอยู่ในจุดที่ลำบาก”
“DRS สร้างความได้เปรียบให้รถคันหลัง ดังนั้นหากใครสามรถอยู่ใสนจุดที่ใช้ DRS ได้ ก็จะสามารถแซงผ่านไปได้”
“มันสนุกมากๆ และพวกเราต่างก็พูดคุยกันด้วยเสียงหัวเราะหลังจบเกม” อัลบอน เผย