นิโก ฮัลเคนเบิร์ก, คาร์ลอส แซงซ์ และ แลนซ์ สตรอล โดนสจ๊วตในศึก อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ เรียกสอบสวน ก่อนถูกตำหนิว่า “จงใจ” ขับช้าเพื่อ “ดึงจังหวะ” ในการควอลิฟายรอบสุดท้ายที่ “มอนซา” พร้อมกระตุ้นให้ “เอฟไอเอ” เร่งหาทางออกสำหรับสถานการณ์เช่นนี้ในอนาคต
การสอบสวนที่ยาวนานมีขึ้น หลังจากที่รถแข่ง 9 คัน ที่เหลืออยู่ในการควอลิฟายรอบ Q3 ต่างก็ชะลอตัวอยู่บนแทร็ก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดูดลมจากท้ายรถแข่ง และเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีนักขับถึง 8 คน ที่ไม่สามารถวิ่งผ่านเส้นตัดเวลาได้ทัน เพื่อทำ Flying Lap ก่อนธงหมากรุกจะถูกโบกสะบัด
หลังจากการพูดคุยกับ ฮัลเคนเบิร์ก, แซงซ์ และ สตรอลล์, กรรมการควบคุมการแข่งขันระบุในรายงาน โดยชี้ว่านักขับทั้ง 3 คนนี้ พยายามที่จะ “ดึง” ความเร็ว สำหรับการทำเวลารอบสุดท้ายของพวกเขา และระบุว่าเป็นการ “ขับช้าโดยไม่จำเป็น”
ทั้งนี้ นักขับทั้ง 3 คน โต้แย้งว่านักขับคนอื่นๆ ก็ขับช้าเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สจ๊วต ได้มีคำตัดสินว่า ทั้ง ฮัลเคนเบิร์ก, แซงซ์ และ สตรอลล์ “มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดสถานการณ์วิกฤติดังกล่าวบนแทร็ก” ของการแข่งขันรอบควอลิฟาย
จากคำตัดสินดังกล่าว สจ๊วต ได้ออกคำเตือนเป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้ ให้กับนักขับทั้ง 3 คน แต่รายงานได้ระบุในบรรทัดสุดท้ายอย่างชัดเจน เพื่อกระตุ้นให้ สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ เร่งหาทางออกสำหรับแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้ หากเกิดขึ้นอีกในอนาคต