มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพีผู้มาจากต่างดาว เผยไม่ต้องการสูญเสียตัวตนเมื่ออยู่บนแทร็ก ชี้สาเหตุที่ไม่ผ่อนคันเร่งใน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ เพราะต้องการให้คนจดจำผลงานในสนาม มากกว่าจำนวนแชมป์โลกที่คว้ามาครองได้
แชมป์โลก 8 สมัยคนล่าสุด และแชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 6 สมัย อย่าง มาร์เกซ ยังคงเดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับ โมโตจีพี หลังจากที่เพิ่งบดเอาชนะ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รุกกี้เฟรนช์จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ได้อย่างสุดมันส์ ในการแข่งขันที่ประเทศไทย
มาร์เกซ ที่ต้องการเพียงคะแนนเหนือคู่แข่งอย่าง อันเดรีย โดวิซิโอโซ เพียง 2 คะแนน ที่ บุรีรัมย์ ก็จะทำให้เขาขึ้นเถลิงแชมป์โลกสมัยที่ 8 อย่างง่ายดาย โดยแชมป์โลกคนปัจจุบันบิดไล่บี้ กวาร์ตาราโร อย่างไม่ลดละ ก่อนคว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่คู่แข่งชาวอิตาเลียนจบเรซในอันดับ 4 ส่งผลให้แต้มขาดลอยอย่างชัดเจน
ทว่านักบิดสแปนิชวัย 26 ปี เผยถึงความเชื่อของตนเองว่า “นักบิดที่ยิ่งใหญ่จะถูกจดจำจากการออกแสดงออกที่ยิ่งใหญ่ในสนาม ไม่ใช่เพียงเพราะจำนวนของการคว้าแชมป์โลกเท่านั้น” และนั่นคือสิ่งที่เขายึดถือเสมอมา
“ตลอดอาชีพนักบิด คุณสามารถที่จะชนะได้มากหรือน้อยก็ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว บางสิ่งที่แฟนๆ จะจดจำ คือสิ่งที่พวกเขาแสดงให้เห็นบนแทร็ก อย่างเช่นที่ แรนดี้ มาโมลา ทำให้ทุกคนได้เห็น” มาร์เกซ กล่าว
“เพื่อพยายามทำสิ่งเหล่านั้น ซึ่งแตกต่างออกไป มันยิ่งใหญ่กว่าจำนวนแชมป์โลก และมันคือสิ่งที่ผมพยายามทำเพื่อผลักดันตัวเอง”
“สิ่งนี้แหละ คือเหตุผลที่ว่า ทำไม? ผมจึงผลักดันและเค้นตัวเองทั้งในรอบควอลิฟาย และในรอบสุดท้ายของ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สิ่งนี้คือตัวตนของผม นั่นคือความทะเยอทะยานที่จะชนะ มันทำให้ผมคว้าชัยชนะในการคว้สแชมป์โลก อย่างเช่นในปี 2013 หรือ 2016 แต่แน่นอนว่าความทะเยนทะยานนั้นก็ทำให้ผมเสียแชมป์โลกในปี 2015 ไปเช่นกัน”
การเสียแชมป์โลกเพียงครั้งเดียวของ มาร์เกซ ในปี 2015 แสดงให้เห็นว่าเขาเองเพิ่มความระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก
การสร้างสมดุลย์ในการแข่งขัน เป็นเครื่องการันตีว่า มาร์เกซ สร้างผลงานได้อย่างเหนียวแน่นในปี 2019 เขาพลาดล้มน้อยลง และยืนระยะในการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม อันดับที่ต่ำกว่าแชมป์ในแต่ละสนามคือ อันดับ 2 แถมยังพลาดล้มในเรซแค่สนามเดียวเท่านั้น
ในปี 2015 มาร์เกซ ไม่จบเรซถึง 6 สนาม ซึ่งถือเป็นสถิติที่เขาทำไว้สูงสุด และมีสาเหตุจากการพลาดล้มเองถึง 5 สนาม ขณะที่ในปีนี้ เขาพลาดล้มเพียงครั้งเดียวคือที่ ออสติน
“มันคือบางสิ่งที่แฝงอยู่ในคาแร็กเตอร์ของผม ผมพยายามจะควบคุมมัน ทีมของผมก็พยายามจัดการเรื่องนี้ และพยายามให้คำปรึกษาที่ดีต่อผม แต่ท้ายที่สุด นี่แหละคือสิ่งที่จะทำให้ผู้คนจดจำผมในแบบที่ผมเป็น” เขาทิ้งท้าย