เจมส์ อัลลิสัน [James Allison] ผู้อำนวยการเทคนิค ฟอร์มูล่าวัน ของ เมอร์เซเดส [Mercedes] เผยว่ารถแข่ง W11 ที่เปิดตัวที่ ซิลเวอร์สโตน [Silverstone] จะไม่ยึดพื้นฐานเดิมของ W10 และยังคงมีการอัพเกรดอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนเปิดฤดูกาล และรถแข่งคันใหม่จะพัฒนาด้วย “วิธีการใหม่ทั้งคัน” ในการแข่งขันเอฟวันสนามแรกที่ เมลเบิร์น
เมอร์เซเดส ทีมแชมป์โลกฟอร์มูล่าวันเพิ่งเปิดตัวรถแข่ง W11 พร้อมส่งลงเชคดาวน์ครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ ซิลเวอร์สโตน
อัลลิสัน กล่าวว่า จริงๆ แล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรในปี 2020 มากนัก เนื่องจากกฎต่างๆ ยังคงเหมือนเดิม ทำให้ เมอร์เซเดส เริ่มทำการทดสอบด้วยรถยนต์ที่ใกล้เคียงที่สุด
“เราจะมีการหารือกันมากขึ้นในปีนี้” เขากล่าว
“เราจะยังคงมีการอัพเกรดสำหรับการแข่งขันที่ เมลเบิร์น ซึ่งจะเกิดขึ้นในการทดสอบ 2 วีคข้างหน้า แต่วิธีการต่างๆ ของรถแข่งคันใหม่จะไม่มีฟีตเจอร์ของปี 2019 เลย”
“ปีที่ผ่านมา กฎการแข่งขันเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่พวกเขาก็ตัดสินใจค่อนข้างช้าในปีนี้”
“ภายใต้สถานการร์เหล่านี้ การเปิดตัวรถ 2 คันในหนึ่งสัปดาห์ สร้างโอกาสอย่างมากให้เราได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้มากที่สุด ก่อนเข้าสู่การแข่งขันที่ เมลเบิร์น” อัลลิสัน กล่าว
“ด้วยกฎระเบียบที่มีมากขึ้นในปีนี้ และการเริ่มต้นพัฒนารถแข่งปี 2020 ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับรถแข่งในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นการทำอะไรซ้ำซ้อนกับปีที่ผ่านมา มันออกจะไร้สาระไปหน่อย”
อัลลิสัน กล่าวว่า แม้กฎจะคงเดิม แต่ เมอร์เซเดส ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญบางอย่างเมื่อเทียบกับ W10 เพราะเพียงแค่พัฒนาจากรถแข่งคันเดิมดูเหมือนจะไม่เพียงพอ
“กฎระเบียบส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นสำหรับเรามันจึงเกี่ยวกับการสร้างความแน่ใจ ว่าเราจะไม่ส่งรถแข่งลงสู่สนามโดยปราศจากการพัฒนา บนรถแข่งเวอร์ชั่นเดิมของเราซึ่งก็มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว”
“หากเราเดินหน้าด้วยการต่อยอดจากความสำเร็จของรถแข่งปี 2019 เราจะได้ประโยชน์แค่นิดหน่อย แต่หนทางที่เราจะสูญเสียการพัฒนาลงไปก็จะเริ่มต้นขึ้น”
“เราต้องการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์รถแข่งของเรา ซึ่งจะต้องเป็นรถแข่งที่ไม่ถึงทางตัน และทำให้เราสามารถมีการพัฒนาได้ตลอดทั้งปี เพื่อที่จะทำให้เรามีรูปแบบที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นสำหรับฤดูกาลใหม่”