“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ [Valentino Rossi] จอมเก๋าอิตาเลียนวัย 41 ปี ยอมรับว่าเขา “กังวล” อย่างมากเกี่ยวกับ “ขีดการต่อสู้” [Race Pace] ของรถแข่ง ยามาฮ่า M1-2020 ก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันสนามแรกของ โมโตจีพี [MotoGP] ที่ กาตาร์ หลังจากที่เขายังคงมีปัญหาอย่างมากกับการสึกหรอของยาง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักบิดยามาฮ่าประสบปัญหากับการยืนระยะในเรซ โดยเฉพาะยางหลังที่เริ่มมีอาการเฟด (Fade) อย่างมากในช่วงกลางเรซไปจนถึงจบการแข่งขัน
ทั้งนี้ ยางมิชลิน ใหม่ในปี 2020 ที่ยางหลังนั้นได้มีการดีไซน์ใหม่เพื่อให้มีอายุการใช้งานมากขึ้น และมาอัตราการสิ้นเปลืองที่น้อยลง ขณะเดียวกันดูเหมือนว่ายางใหม่นี้จะให้การยึดเกาะที่มากขึ้นเล็กน้อยกับรถแข่ง ยามาฮ่า และ ซูซูกิ หากประเมินจากข้อมูลในการทดสอบทั้งที่ มาเลเซีย และ กาตาร์
อย่างไรก็ดี ดาวบิดอิตาเลียนได้เผยหลังจบการทดสอบที่ กาตาร์ โดยยอมรับว่าปัญหาเรื่องการ “สึกหรอกของยาง” ยังคงมีอยู่สำหรับเขา
“ผมแข็งแกร่งมากกับยางใหม่ และโชคไม่ดีนักที่มาพลาดล้มกับยางที่ใช้ซ้ำเป็นครั้งที่ 2 ขณะที่กำลังไล่กดเวลา” รอสซี่ เผย
“ดังนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมจบอันดับที่ 12 ในวันสุดท้ายที่ กาตาร์ แต่เรากังวลมากกว้านั้นกับเรื่อง เรซ เพซ เพราะมันยังคงเหมือนปีที่ผ่านมาในช่วงครึ่งหลังของเรซ เรามีปัญหากับยางอย่างมาก โดยเฉพาะยางหลัง และโชคไม่ดีที่ผมไม่สามารถรักษา เรซ เพซ ได้”
“เราพยายามจำลองการแข่งแบบระยะยาวเมื่อวานนี้ เราพยายามในวันแรก และวันสุดท้าย เป็นเวลา 2 ช่วง เราได้ข้อมูลบางอย่างมาแล้ว และเราต้องทำความเข้าใจว่าทำไม และหาทางแก้ไขมันให้ได้ก่อนเรซแรกที่ กาตาร์”
“ความรู้สึกทั่วไปบนรถแข่งไม่ได้เลวร้าย เพราะในวันนี้ (วันจันทร์) เรามีการปรับปรุงเซ็ตติ้งได้ค่อนข้างเยอะ เราแก้ไขไปในทางที่ดี ในรอบแรกผมยังคงเร็วเสมอ แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ยางหลัง และมันคล้ายกับปัญหาที่เราเจอในปีที่แล้วสุดๆ”