อัลวาโร เบาติสต้า นักบิดสแปนิชสังกัดทีมโรงงานฮอนด้าในศึก เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ เผยว่ารถแข่ง CBR1000RR-R ใกล้ถึงลิมิตของการพัฒนาแล้ว ชี้จะต้องมีการอัพเกรดชิ้นส่วนใหม่บางอย่าง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของสมรรถนะ และหนีฟอร์มที่ตกต่ำ
ในการแข่งขันสนามที่ 2 ของ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งกลับมาแข่งขันอีกครั้งที่ เฆเรซ เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคมที่ผ่านมา เบาติสต้า คือนักบิดฮอนด้าที่ทำผลงานได้ดีที่สุด ด้วยการจบเรซแรกในวันเสาร์ด้วยอันดับ และเข้าเส้นชัยอันดับ 8 ในการแข่งขันสนาม 2 เมื่อวันอาทิตย์
อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวสแปนิชเผยว่าเขาประสบปัญหาอย่างหนักกับ “ฟรอนท์เอ็นด์” ของรถแข่ง CBR1000RR-R รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเซ็ตอัพสำหรับการแข่งขันรอบ ซูเปอร์โพล เรซ ในเช้าวันอาทิตย์ โดยหวังที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ได้
“ในรอบ ซูเปอร์โพล เรซ เราได้สร้างการเซ็ตติ้งแบบใหม่ที่แตกต่างกัน เพื่อพยายามแก้ปัญหาที่มีกับส่วนหน้าของรถแข่ง และแน่นอนมันไม่เวิร์ค” เบาติสต้า เสริม
“ปัญหาที่มีคือเราสูญเสียการยึดเกาะที่ล้อหน้าไป รวมถึงไม่สามารถเข้าโค้งได้ดีเท่าที่ควร เราปรับปรุงมันได้นิดหน่อยในตอนเช้า แต่กลับต้องมาเสียสมรรถนะของการเบรกและอัตราเร่ง ท้ายที่สุดเรากลับเจอปัญหามากกว่าทางออก”
“สำหรับเรซที่ 2 เราต้องถอยกลับอีกสเต็ป เพื่อแก้ปัญหาการเบรกและการยึดเกาะที่ล้อหลัง แต่ความรู้สึกที่ล้อหน้าก็ยังคงมีปัญหาเหมือนเดิม มันยากมากในตอนเข้าโค้ง ผมเสียยางหน้าจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเค้นได้เท่าที่ผมต้องการ”
“ในหลายๆ ปัญหาที่เราเจอ นั่นคือสิ่งที่เราต้องแก้ไขให้ได้ ดังนั้นมันจำเป็นจริงๆ ที่ต้องรู้ให้ได้ว่าปัญหาที่แท้จริงมันเกิดขึ้นจากอะๆร เพื่อตามหาทางออกในการแก้ไข”
“หากเราได้ทดลองใช่ชิ้นส่วนใหม่บางอย่าง ผมมั่จในว่าเราจะหาทางออกได้เร็วขึ้น เพราะตอนนี้เราแทบไม่มีเวลามากพอในแต่ละเรซ ผมก็ไม่รู้ว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้เร็วแค่ไหน” เบาติสต้า ทิ้งท้าย