“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ยอมรับว่าตกใจและกลัวมากกับอุบัติเหตุที่ เรดบูลล์ ริง หลังรอดพ้น “ลูกหลง” อย่างปาฏิหารย์ ไม่งั้นอาจเกิด “หายนะ” ได้ พร้อมเตือน โยฮันน์ ซาร์โก ไม่ควรเบรกตัดหน้าคู่แข่งในความเร็ว 300 กม./ชม. ย้ำนักบิดยุคนี้ดุดันเกิดควร
รอสซี่ โชคดีอย่างปาฏิหารย์ที่รอดพ้นจากการโดนกระแทกโดยรถแข่งของ ฟรานโก มอร์บิเดลลี จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที หลังชนอย่างรุนแรงกับ โยฮันน์ ซาร์โก ในโค้ง 2 ของ เรดบูลล์ ริง ในรอบที่ 9 ของ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ
รถแข่งของ ซาร์โก ลอยเคว้งขึ้นกลางอากาศ ก่อนพุ่งผ่านหลังของ มาเวริค บีญาเลส และผ่านหน้าของ รอสซี่ ไปแบบเสี้ยววินาที
ทั้ง รอสซี่ และ บีญาเลส สลัดความตกใจจากอุบัติเหตุทิ้ง และสามารถกลับมาแข่งขันต่อได้ โดยจอมเก๋าอิตาเลียนวัย 41 ปี เข้าป้ายในอันดับ 5
เมื่อถามเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว รอสซี่ ตอบว่า “มันน่ากลัวมาก และสะพรึงสุดๆ”
“ในมุมมองของผม นักบิดทุกคนดุดันเกินไป แต่มันก็รวมถึงรุ่นเล็กด้วย ผมเข้าใจได้นะเพราะทุกคนต่างอยู่ในเกม แต่สำหรับผมมันจำเป็นที่เราต้องเลี่ยงความเสี่ยงพวกนั้น”
“คุณต้องให้เกียรตินักบิดคนอื่นที่อยู่บนแทร็กด้วย เพราะเราต้องไม่ลืมว่ากีฬาประเภทนี้ มันอันตรายมาก โดยเฉพาะแทร็กที่มีทางตรงยาวๆ และทำความเร็วได้สูงถึง 300 กม./ชม.”
“นั่นคือสิ่งที่ผมพูด… ว่ามันเริ่มตั้งแต่คลาสเล็ก คุณจะเห็นนักบิดหลายคนมาก ที่ชอบปิดประตูการแซงใส่คู่แข่งด้วยการเบรก”
“ซาร์โก ขี่บานออกไปเยอะมาก และเขาเบรกต่อหน้า ฟรานโก บางทีอาจเพราะไม่ต้องการให้ ฟรานโก แซง แต่มันใกล้เกินไป เมื่อคุณขึ่ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. มันย่อมมีสลิปสตรีมสูงมาก และ ฟรานโก ก็ไม่มีโอกาสได้เบรกด้วยซ้ำ”
“เราเสี่ยงกันมาก โดยเฉพาะผมและ มาเวริค เหตุการณ์นี้อาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ได้เลย”
“ผมคุยกับ ซาร์โก แล้ว ผมบอกสิ่งนี้กับเขา และเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ยังไงก็เถอะ การขี่แบบดุดันมันเป็นเรื่องดี แต่การเบรกตัดหน้าคนอื่น ด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. มันคือหายนะ”