ทาเคโอ โยโกยาม่า ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ ฮอนด้า โมโตจีพี เผย HRC ต้องเปลี่ยนแปลงรถแข่ง “มากกว่าที่คาดคิด” เพื่อปรับปรุง RC213V ให้รีดสมรรถนะสูงสุดของ “ยางหลังใหม่” จากมิชลิน หลังนักบิดฮอนด้าเจอปัญหาอย่างหนักในปีนี้
มิชลิน เปิดตัวยางหลังใหม่สำหรับศึก โมโตจีพี 2020 ด้วย การยึดเกาะ (Grib) ที่สูงขึ้น รวมถึงอายุการใช้งานที่ทนทานขึ้นสำหรับการแข่งขัน
ทว่าคุณสมบัติดังกล่าวมีผลอย่างมากกับสไตล์ของนักบิดบางคน โดยเฉพาะ อันเดรีย โดวิซิโอโซ ในรถแข่งดูคาติ และนักบิดฮอนด้าทุกคน ที่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อปรับสไตล์ให้เข้ากับยางใหม่นี้
นักบิดฮอนด้าในปี 2020 ต้องเจอความยากลำบากอย่างมาก จากการยึดเกาะที่เพิ่มมากขึ้นที่ยางหลัง ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาจากความเฉื่อยของเครื่องยนต์ ทำให้มีปัญหาต่อเนื่องไปที่การเบรกของนักบิด
อเล็กซ์ มาร์เกซ, สเตฟาน แบรเดิล สองนักบิด เรปโซล ฮอนด้า และนักบิดแอลซีอาร์ ฮอนด้า อย่าง คาล ครัทช์โลว พยายามอย่างหนักในการดึงขีดความสามารถของรถแข่ง RC213V ร่วมกับยางหลังใหม่ โดยทำได้ดีที่สุดเพียงคว้ากริดที่ 6 ในศึก สแปนิช กรังด์ปรีซ์ และนั่นคืออันดับที่ดีที่สุดของพวกเขาในการควอลิฟาย
ทาเคโอะ โยโกยาม่า ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ ฮอนด้า โมโตจีพี กล่าวว่า “ผมคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำงานอย่างหนักในตอนนี้ คือการพยายามหาวิธีการดึงสมรรถนะจากโครงสร้างของยางหลังใหม่นี้”
“พูดตามตรง, ผมไม่คิดว่าในตอนนี้เราดึงสมรรถนะสูงสุดของยางออกมาใช้ได้แล้ว เพราะยังมีบางจุดที่เราเปลี่ยนแปลงรถแข่งอย่างมาก”
“เราต้องทดลองหลายอย่างมากกว่าที่เราคาดคิด หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจเปลี่ยนโครงสร้างยางหลัง และเราก็กำลังพยายามหลายๆ อย่างในตอนนี้”
“ผมอาจไม่เห็นด้วยมากนักที่นักบิดที่ว่ามีอาการยางหน้าจิกมากไป แต่มันจะต้องขึ้นอยู่กับไลน์ในการขี่ด้วย บางทีพวกเขาอาจต้องปรับสไตล์เพื่อใช้งานมัน”