[F1] บาห์เรน ดราม่าเกลื่อน! เซฟตี้คาร์ยันรอบสุดท้าย “แฮมิลตัน” เข้าวิน “อัลบอน” โพเดี้ยม

ศึก บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ เกิดเหตุพลิกผันตลอดทั้งเรซ ไฟไหม้ 2 ครั้ง รถหงาย 1 ครั้ง นักขับปลอดภัย ขณะแชมป์เป็นของ ลูอิส แฮมิลตัน ด้าน เรดบูลล์ เรซซิ่ง ซิว 2-3 คู่ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ซิวบทพระรอง ส่วน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยฉลองโพเดี้ยมประวัติศาสตร์ได้อีกครั้งในอันดับ 3 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2020 สนาม 15 รายการ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ที่ ซาคีร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศบาห์เรน ชิงชัยทั้งสิ้น 57 รอบสนาม

โพลในเรซนี้เป็นของ ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกชาวอังกฤษจาก เมอร์เซเดส ขนาบข้างด้วยทีมเมทชาวฟินแลนด์อย่าง วัลเตรี บ็อตตาส ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 และ 4 เป็นของ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น นักขับดัตช์จาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง และ อเล็กซานเดอร์ อัลบอน อังศุสิงห์ ทีมเมทชาวไทย

เพียงออกสตาร์ทเรซก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน จากการชนหนักของ โรแมง โกรส์ฌอง นักขับเฟรนช์จาก ฮาส ที่หักหลบคู่แข่งแต่ท้ายรถหลบไม่พ้นรถแข่งของ ดานีล ควียาท เสียหลักพุ่งชนเข้ากับ “การ์ดเรล” เต็มๆ ที่โค้ง 3 กรรมการตีธงแดงทันที และเกมต้องหยุดนานกว่า 1 ชั่วโมง

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รถแข่งของ โกรส์ฌอง เกิดไฟลุกท่วมทันที พร้อมกับแยกเป็น 2 ชิ้นส่วน และทะลุการ์ดเรลไปอย่างน่ากลัว โดยนักขับเฟรนช์ติดอยู่ในไฟกว่า 28 วินาที ก่อนจะมีสติเอาตัวรอดออกมากจากกองไฟ พร้อมด้วยการเข้าช่วยเหลืออย่างรวดเร็วของทีมเซฟตี้

อย่างไรก็ดี หลังกลับมาเริ่มเกมอีกครั้่ง เซฟตี้คาร์ ก็ต้องออกมาวิ่งนำตั้งแต่รอบแรก เพราะเหตุของ แลนซ์ สตรอลล์ นักขับแคนาเดี้ยนจาก เรซซิ่ง พอยต์ ไปเกยกับ ควียาท ก่อนพลิกหงอยท้องคาแทร็ก

โดย แฮมิลตัน ยังเป็นผู้นำ ตามด้วย เวอร์สแท็พเพ่น และ เซอร์จิโอ เปเรซ นักขับเม็กซิกันจาก เรซซิ่ง พอยต์ ขณะที่ อัลบอน ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 หลังจากที่ บ็อตตาส ตัดสินใจเข้าพิตเนื่องจากยางชุดแรกเสียหายจากจังหวะล้อล็อค

จากนั้น แฮมิลตัน ติดสินใจเข้าพิตพร้อมด้วย อัลบอน ที่เลือกใช้ยางมีเดียม ก่อนจะขยับขึ้นเป็นผู้นำ ส่วน อัลบอน รั้งอันดับ 4 ส่วน เวอร์สแท็พเพ่น หลังออกจากพิตกลับมาอยู่ในอันดับ 2 ด้านอันดับ 3 เป็นของ เปเรซ ซึ่งเลือกใช้ยางฮาร์ดเหมือนกัน

จากนั้นในรอบที่ 35 เรดบูลล์ เรซซิ่ง ตัดสินใจเรียกทั้ง เวอร์สแท็พเพ่น และ อัลบอน เข้าพิตเพื่อทำอันเดอร์คัต โดยออกมาด้วยยางฮาร์ดทั้งคู่ ขณะที่ แฮมิลตัน ก็เข้าพิตเช่นกันและออกมาด้วยยางฮาร์ดและยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ส่วน เวอร์สแท็พเพ่น และ อัลบอน รั้งอันดับ 3 และ 6

ช่วง 10 รอบสุดท้าย เวอร์สแท็พเพ่น ตัดสินใจเข้าพิตอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนยางใหม่ ขณะที่ เปเรซ และ อัลบอน ยังคงลุยต่อด้วยฮาร์ดชุดเดิม

ไฟไหม้ครั้งที่ 2 ของ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ เกิดขึ้นกับรถแข่งของ เซอร์จิโอ เปเรซ ในช่วง 3 รอบสุดท้าย เซฟตี้คาร์ ออกมานำ อัลบอน ขยับขึ้นที่ 3 ส่วน แฮมิลตัน และ เวอร์สแท็พเพ่น 1-2

จบการแข่งขันโดย เซฟตี้คาร์ วิ่งนำจนครบ 57 รอบสนาม แฮมิลตัน คว้าแชมป์ไปครอง ขณะที่ เวอร์สแท็พเพ่น ตามเข้าป้ายอันดับ 2 ส่วน อัลบอน ขยับขึ้นมาคว้าอันดับ 3 ได้ขึ้นโพเดี้ยมเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตกับ ฟอร์มูล่าวัน

ผลการแข่งขัน บาห์เรน กรังด์ปรีซ์

Cla	#	Driver	Chassis	Engine	Laps	Time	Gap	Interval	km/h	Pits	Retirement	Points
1	44	Lewis Hamilton	Mercedes	Mercedes	57	1:34’01.829				3		25
2	33	Max Verstappen	Red Bull	Honda	57	1:34’03.083	1.254	1.254		4		19
3	23	Alex Albon	Red Bull	Honda	57	1:34’09.834	8.005	6.751		3		15
4	4	Lando Norris	McLaren	Renault	57	1:34’13.166	11.337	3.332		3		12
5	55	Carlos Sainz Jr.	McLaren	Renault	57	1:34’13.616	11.787	0.450		3		10
6	10	Pierre Gasly	AlphaTauri	Honda	57	1:34’13.771	11.942	0.155		2		8
7	3	Daniel Ricciardo	Renault	Renault	57	1:34’21.197	19.368	7.426		3		6
8	77	Valtteri Bottas	Mercedes	Mercedes	57	1:34’21.509	19.680	0.312		4		4
9	31	Esteban Ocon	Renault	Renault	57	1:34’24.632	22.803	3.123		3		2
10	16	Charles Leclerc	Ferrari	Ferrari	56	1 lap				3		1
11	26	Daniil Kvyat	AlphaTauri	Honda	56	1 lap				3
12	63	George Russell	Williams	Mercedes	56	1 lap				3
13	5	Sebastian Vettel	Ferrari	Ferrari	56	1 lap				3
14	6	Nicholas Latifi	Williams	Mercedes	56	1 lap				3
15	7	Kimi Raikkonen	Alfa Romeo	Ferrari	56	1 lap				3
16	99	Antonio Giovinazzi	Alfa Romeo	Ferrari	56	1 lap				3
17	20	Kevin Magnussen	Haas	Ferrari	56	1 lap				4
18	11	Sergio Perez	Racing Point	Mercedes	53					3	Retirement
dnf	18	Lance Stroll	Racing Point	Mercedes	2					1	Retirement
dnf	8	Romain Grosjean	Haas	Ferrari	0						Retirement