จอร์จ รัสเซลล์ ยอดนักขับอังกฤษพลาดการ “คว้าชัยชนะ” ครั้งแรกในฟอร์มูล่าวัน หลังโดน “เทพีแห่งโชค” ทอดทิ้ง จากเหตุการณ์สุดพลิกผันในศึก ซาคีร์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เจ้าตัวยอมรับ “เจ็บใจสุดๆ” หลังถูกกระชากโอกาสชนะไปถึง 2 ครั้ง จากปัญหาเรื่องยาง

จอร์จ รัสเซลล์ นักขับอังกฤษจาก วิลเลียมส์ ได้โอกาสทองขับแทน ลูอิส แฉมิลตัน แชมป์โลกที่ติดเชื้อโควิด-19 และสร้างผลงานสุดเซอไพรส์ด้วยการทำเวลาเร็วที่สุดในรอบ FP1-FP2 แถมยังทำเวลาในรอบควอลิฟายได้ดี และได้ออกตัวกริดที่ดีที่สุดในอันดับ 2

หลังออกสตาร์ทเกมในวันอาทิตย์ รัสเซลล์ ขยับแซง บ็อตตาส ได้ตั้งแต่โค้งแรก และรักษาความได้เปรียบได้อย่างเหนียวแน่น สร้างโอกาสให้เขาเข้าใกล้การคว้าชัยชนะกับชุดแข่ง เมอร์เซเดส อย่างมาก

อย่างไรก็ดี จากจังหวะของ แจ็ค เอตกิน ที่พลาดชนจนจมูกวิงหน้าหลุดขวางกลางแทร็ก ทำให้กรรมการสั่งเซฟตี้คาร์ออกมาวิ่งนำในช่วงที่เหลือราว 27 รอบสนาม โดย เมอร์เซเดส ตัดสินใจเรียก รัสเซลล์ และ บ็อตตาส กลับเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนยาง

ทว่าพิตดังกล่าวกลับเป็นหายนะของทีม เมื่อ รัสเซล ออกไปพร้อมกับยางหลังซ้ายผิดสเป็ค ขณะที่ บ็อตตาส ต้องติดกับการทำงานพิตนานกว่า 27 วินาที โดยหลังจากที่ รัสเซลล์ เข้าพิตมาอีกครั้ง ก็ออกไปไล่บู๊อย่างดุเดือด และตีตื้น เปเรซ ผู้นำเหลือเพียงไม่ถึง 2 วินาที

ทว่าเทพีแห่งโชคกลับไม่เข้าข้าง รัสเซลล์ เมื่อยางหลังซ้ายของเขาเกิดรั่ว จนต้องกลับมาเข้าพิตอีกครั้ง ส่งผลให้ออกจากเรซด้วยการร่วงลงไปรั้งท้าย และไล่ตีตื้นชึ้นมาจบเรซในอันดับ 9

“ผมมีโอกาสขยับเข้าใกล้ชัยชนะ เราขึ้นนำและมันก็ถูกพรากไปจากผม ผมเรียกคืนมันกลับมาได้อีกครั้ง แต่มันก็โดนพรากไปทั้งสองครั้ง” รัสเซลล์ กล่าว

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลย”

“ผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมขับได้ดีและเรซก็อยู้ในการควบคุมของผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือในข่วงแรกที่เราขึ้นนำ และเห็นได้ชัดว่าเมื่อเซฟตี้คาร์ออกมา มันก็น่าหงุดหงิดมากๆ”

“แต่ผมก็รู้สึกอุ่นใจนะ ผมแซงได้หลายครั้ง และก็มีความเร็วที่จะไล่แซง เซอร์จิโอ เปเรซ เพื่อทวงตำแหน่งผู้นำ และเชื่อว่าเราจะทำมันได้สำเร็จ”

“แต่มันกลับเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้นอีกครั้ง แต่ก็อย่างว่า นี่เหลือคือเกมการแข่งขัน”

นอกจากนี้ รัสเซลล์ ยังยอมรับว่าในสุดสัปดาห์นี้มันเหมือน ถูกเหวี่ยงไปมาบน “รถไฟเหาะตีลังกา” โดยเฉพาะสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น

“เมื่อบอกว่าผมจะเป็นผู้นำ แล้วต้องถูกกระชากเรซไปเช่นนี้ (อ๊ากกก เสียงอุทาน) ผมก็ไม่รู้จะพูดถึงมันยังไง”

“แต่พูดตามตรงนะ ผมเจ็บสุดๆ มันเหมือนกระอักเลือดเลยละ โดยเฉพาะตอนที่ลงจากรถ” รัสเซลล์ กล่าว