เซบาสเตียน โอกิเยร์ ดาวขับเฟรนช์แมน สังกัดโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิลยูอาร์ที ซิ่งซิวแชมป์แรลลี่ มอนซ่า บวกแต้มแซงเอลฟิน อีแวนส์ เพื่อนร่วมค่าย ผงาดขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลกประเภทนักขับสมัยที่ 7 ส่วนแชมป์ประเภททีมผู้สร้างตกเป็นของ ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิลยูอาร์ที
เกมตัดสินแชมป์ ศึกเวิลด์แรลลี่ แชมเปี้ยนชิพ 2020 ดวลความเร็วระหว่างวันที่ 3-6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ มอนซ่า ประเทศอิตาลี ดวลความเร็วใน 16 ช่วงทดสอบพิเศษ บนสังเวียนทางลาดยางรวมระยะทางทั้งสิ้น 239.20 กิโลเมตร ในรายการเอซีไอ แรลลี่ มอนซ่า
โดย เซบาสเตียน โอกิเยร์ ดาวขับเฟรนช์แมน เจ้าของบัลลังก์แชมป์เซโลก 6 สมัย เปิดหัวด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ซิ่งรถแข่งโตโยต้า ยาริส ดับเบิ้ลยูอาร์ซี ทำเวลาได้เร็วที่สุดในสเตจที่ 1 ด้วยเวลา 3 นาที 31.5 วินาที ตามด้วย เธียร์รี่ นอยวิลล์ และ อ๊อท ทานัค ดูโอ้สังกัดฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิ้ลยูอาร์ซี ในอันดับ 2 และ 3 ช้ากว่าผู้นำ 0.5 และ 2.0 วินาที ส่วน เอลฟิน อีแวนส์ ซิ่งทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 4 ช้ากว่าทีมเมท 2.3 วินาที
ก่อนที่ ดานี ซอร์โด ดาวขับสแปนิช สังกัดฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิลยูอาร์ที จะไต่ขึ้นเป็นผู้นำในวันที่ 2 แม้โดนบวกเวลาเพิ่มจากการวิ่งตัดชิเคน ด้วยเวลารวม 53 นาที 39.3 วินาที รวมถึง เอซาเปคก้า ลัปปิ นักขับฟินน์ สังกัดเอ็ม-สปอร์ต ฟอร์ด เวิลด์ ดับเบิลยูอาร์ที ที่โดนบวกเวลาเพิ่มเช่นกัน ทว่ายังเพียงพอที่จะรั้งอันดับ 2 ตามหลังผู้นำอยู่ 1 วินาที ด้าน เซบาสเตียน โอกิเยร์ ยอดนักขับเฟรนช์แมน ผู้นำในวันแรก ซิ่งทำเวลาจบวันที่ 2 ของการแข่งขันรั้งอยู่ในอันดับ 3 ช้ากว่า ซอร์โด เพียง 2 วินาที
ทว่า เซบาสเตียน โอกิเยร์ สังกัดโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิลยูอาร์ที สามารถรีดความเร็วขยับขึ้นเป็นผู้นำบนตารางเวลารวมได้อีกครั้ง หลังซิ่งจบวันที่ 3 ด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 53 นาที 19.4 วินาที ทิ้งห่าง ดานี ซอร์โด จาก ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิลยูอาร์ที ที่รั้งอันดับ 2 ถึง 17.8 วินาที ขณะที่ เอลฟิน อีแวนส์ พลาดท่าชนในช่วงทดสอบที่ 11 หล่นลงไปอยู่อันดับที่ 35 ตามหลังผู้นำถึง 20 นาที 04.9 วินาที
ท้ายที่สุดแชมป์ตกเป็นของ เซบาสเตียน โอกิเยร์ ที่รักษาฟอร์มอันร้อนแรงไว้ได้ในวันสุดท้ายของการแข่งขัน ก่อนจะคว้าแชมป์แรลลี่ มอนซ่า ไปครองด้วยเวลารวม 2 ชั่วโมง 15 นาที 51.0 วินาที เร็วกว่า อ๊อท ทานัค และ ดานี ซอร์โด ดูโอ้สังกัดฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิลยูอาร์ที ที่ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 อยู่ 13.9 และ 15.3 วินาที ตามลำดับ ด้าน เอลฟิน อีแวนส์ ผู้นำบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ทำได้ดีที่สุดด้วยการซิ่งจบการแข่งขันในอันดับ 29
จากผลการแข่งขันดังกล่าวส่งผลให้ เซบาสเตียน โอกิเยร์ เก็บแต้มแซง เอลฟิน อีแวนส์ คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 7 ให้กับตนเอง หลังเก็บไปได้ทั้งสิ้น 122 คะแนน เหนือกว่าทีมเมทที่หล่นลงมาจบฤดูกาลด้วยอันดับ 2 เพียง 8 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ อ๊อท ทานัค และ เธียร์รี่ นอยวิลล์ ในอันดับ 4 เก็บไปได้ 105 และ 87 คะแนน ตามลำดับ
ส่วนแชมป์ประเภททีมผู้สร้างตกเป็นของ ฮุนได เชลล์ โมบิส ดับเบิลยูอาร์ที ที่รักษาบัลลังก์แชมป์โลกไว้ได้ด้วยคะแนนรวมทั้งสิ้น 241 คะแนน ตามด้วย โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ดับเบิลยูอาร์ที ในอันดับ 2 เก็บไปได้ทั้งสิ้น 236 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ เอ็ม-สปอร์ต ฟอร์ด เวิลด์ แรลลี่ ทีม และ ฮุนได 2ซี คอมเพทิชั่น ในอันดับ 4 มี 129 และ 8 คะแนน ตามลำดับ