ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R FirebladeSP รถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตท็อปคลาสถ่ายทอด “ดีเอ็นเอ” จากรถแข่งโมโตจีพี RC213V สู่ท้องถนนจริงชูจุดเด่นเครื่องยนต์ใหม่ 1000 ซีซี 4 สูบเรียงประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิมถึง 25% ดีไซน์ใหม่ทั้งคันติดตั้งชุด “แอโรแฟริ่ง” รีดสมรรถนะการขับขี่ด้วยอากาศพลศาสตร์ชั้นยอดอัดแน่นเทคโนโลยีสุดล้ำจากสนามแข่งระดับโลก “ยอดนักบิด” และ “นักทดสอบ” ชั้นนำของไทยยกให้เป็นซูเปอร์ไบค์ที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด
บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ค่ายจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของไทยสร้างกระแส “ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงอย่าง ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R FirebladeSP ซึ่งพลิกโฉมการออกแบบและการพัฒนาจากรุ่นเก่าอย่างสิ้นเชิง
หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทยเพียง 1 วัน “เอ.พี.ฮอนด้า” ทุ่มทุนมหาศาลปิดสังเวียนความเร็วระดับโลกอย่าง สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่อให้สื่อมวลชน, นักทดสอบชั้นนำของไทย และกลุ่มลูกค้าของฮอนด้า ได้ร่วมทดสอบสมรรถนะ ภายใต้การดูแลและออกแบบการเทสต์โดย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ อดีตนักบิดโมโตทูชิงแชมป์โลกชาวไทย และทีมงานนักบิดจาก “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” อาทิ “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งชั้นนำของเอเชีย และ “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ คอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
“นี่คือซูเปอร์ไบค์ที่คุ้มค่าสุดๆ ขอให้ลืม CBR รุ่นเก่าๆ ไปให้หมด” คือเสียงตอบรับของนักทดสอบทุกคน หลังได้สัมผัส ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP
ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Made in The Race” รถจักรยานยนต์ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP มาพร้อมแฟริ่งดีไซน์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์เหนือกว่ารถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน อาทิ “ชุดแฟริ่งล่าง” ที่จัดวางใกล้ล้อหลังมากขึ้น ช่วยลดแรงปะทะอากาศในสภาพถนนแห้ง และลดแรงปะทะน้ำในสภาพถนนเปียก ทำให้สามารถรักษาอุณหภูมิยางและการยึดเกาะ (Grip) ได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะเดียวกันบังโคลนหน้ายังออกแบบให้รีดอากาศส่งต่อไปยัง “แฟริ่งข้าง” ด้วย
เครื่องยนต์ 1000 ซีซี 4 สูบเรียง พัฒนาใหม่ทั้งระบบให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 25% เมื่อเทียบกับ CBR1000RR รุ่นที่ผ่านมา ภายในเครื่องยนต์มีการออกแบบระบบประจุส่งไอดีใหม่ใฟ้ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น, ลูกสูบอลูมิเนียม, ก้านสูบไทเทเนี่ยมและข้อเหวี่ยงเทคโนโลยีเดียวกับ RC213V-S, ระบบระบายความร้อนใหม่แบบ Built-in bottom bypass cooling, ระบบหล่อลื่นใหม่ และ ระบบไอเสียใหม่
ท่อไอเสียไทเทเนียมน้ำหนักเบาที่ Honda พัฒนาร่วมกับ AKRAPOVIC, ปรับท่านั่งและที่พักเท้าใหม่ (Riding Position) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขี่ให้สูงที่สุด, เฟรมแบบไดอะมอนด์ (Diamond) พร้อมสวิงอาร์ม ทำจากอลูมิเนียมแบบเดียวกับ RC213V-S น้ำหนักเบา แข็งแรง
“ถังน้ำมัน” ถูกปรับให้ต่ำลง 45 มม. สอดรับกับ “วินด์สกรีน” (Windscreen) ปรับองศาจาก 45° เป็น 35° ช่วยลดแรงปะทะจากลมขณะขับขี่ในแบบ “เรซซิ่ง” (Racing Position) และท่านั่งขับขี่อื่นๆ “ช่องดักอากาศ” (Air Duct) ขนาดใหญ่จะช่วยลดการส่ายของตัวรถ
อีกหนึ่งในทีเด็ดคือ “วิงเล็ต” (Winglet) ดีไซน์ใหม่แบบ 3 ชั้น ถ่ายทอดจากรถแข่ง RC213V ตัวแชมป์โลกโมโตจีพี ที่ช่วยเพิ่มแรงกดให้ตัวรถ และลดอาการยกตัวขณะเปิดคันเร่งออกตัวอย่างเฉียบพลัน สร้างแรงยึดเกาะขณะเข้าโค้งและใช้ความเร็วสูง
ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP มาพร้อมหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว แสดงผลได้ครบถ้วน แม่นยำ, ไฟหน้าคู่แบบ LED เอกลักษณ์เฉพาะของ CBR, ไฟท้ายและ Winker LED พร้อมระบบปิดไฟเลี้ยวอัตโนมัติ, ระบบกุญแจ (HONDA SMART KEY) อัจฉริยะ สตาร์ทเครื่องยนต์ โดยไม่ต้องใช้กุญแจ, ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ (ESS) เมื่อมีการเบรกกะทันหัน
นอกจากนี้ ยังนำอุปกรณ์เสริมที่พัฒนาจากสนามแข่งอย่าง QUICK SHIFTER (UP/DOWN) เพื่อช่วยให้ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ โดยไม่ต้องบีบคลัทช์ ด้วย Quick Shifter ที่ปรับระดับแรงกดได้ 3 ระดับ (*เฉพาะรุ่น CBR1000RR-R SP)
ด้วยเทคโนโลยีที่อัดแน่นเต็มคัน ทำให้ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP นับเป็น “ซูเปอร์สปอร์ต” ท็อปคลาสที่มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับพรีเมี่ยมแบบไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะการขับขี่ที่นุ่มนวลจากระบบ Throttle by Wire (TBW) คันเร่งไฟฟ้ารุ่นใหม่ ซึ่งทำงานสอดคล้องกับ ระบบ NEW HSTC เทคโนโลยีจากรถแข่ง RC213V ทำหน้าที่ควบคุมแรงบิดเพื่อตรวจจับความเร็วของล้อหน้าและหลัง
ระบบ 6-Axis IMU รุ่นใหม่ของ Bosch ควบคุมสมดุลตัวรถขณะเข้าโค้ง ตรวจจับอาการรถได้อย่างแม่นยำ ทำงานร่วมกับ HESD (Honda Electronics Steering Damper) ระบบกันสะบัดไฟฟ้า และ IMU ที่สามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ รองรับการขับขี่ได้หลากหลายสถานการณ์ขณะเดียวกันยังเน้นความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS ควบคุมการทำงานของล้อหลังโดยเฉพาะ ลือกปรับได้ 2 แบบ สำหรับการขับขี่แบบทั่วไป และ “การขับขี่ในสนามแข่ง”
ขณะเดียวกัน ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP ยังถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีการแข่งขันมาอย่างเต็มเปี่ยม ด้วยโหมดการขับขี่ (Riding Mode) 3 แบบที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ สามารถปรับฟังก์ชั่นการทำงานของ Power Selector (P), HSTC (T), Engine Brake( EB), Wheelie Control (W) เพื่อรองรับการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ พิเศษ! สำหรับรุ่น CBR1000RR-R SP เพิ่มฟังก์ชั่น ระบบควบคุมรถด้วยโช้กไฟฟ้า (S)
รวมถึง “Start Control Mode” โหมดการขับขี่ใหม่สำหรับใช้ในการออกตัวในสนามแข่ง ซึ่งจะเป็นการควบคุมรอบเครื่องให้อยู่ในระดับคงที่ แม้ว่าจะมีการบิดคันเร่งแบบเต็มแรง ส่งผลให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการควบคุมคลัชท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade เปิดตัวในเมืองไทยด้วยราคา 999,000 บาท คุ้มค่าด้วยระบบเบรกสมรรถนะสูง จานเบรกหน้าขนาด 330 มม. คาลิปเปอร์ Nissin 4 ลูกสูบ แข็งแรง น้ำหนักเบา, ระบบเบรกหลัง จานเบรกขนาด Φ220 คาลิเปอร์ BREMBO 2 Pot วางตรงข้ามกัน แบบเดียวกับ RC213V-S นอกจากนี้ ยังติดตั้งชุดช่วงล่างระดับโลก โดยใช้โช๊คอัพหน้าแบรนด์ SHOWA BPF ส่วนโช๊คหลังใช้โช๊คอัพ SHOWA BFRC-lite พร้อมปรับปรุงโครงสร้างเดิมจากรุ่น 2017 ด้วยการลดน้ำหนักชิ้นส่วนเพื่อเพิ่มคุณภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ด้าน ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP จำหน่ายในเมืองไทยด้วยราคา 1,119,000 บาท ติดตั้งระบบเบรกแบบเดียวกับ RC213V-S จานเบรกขนาด 330 มม. คาลิปเปอร์ Brembo จานเบรกหลังขนาด Φ220 คาลิเปอร์ BREMBO 2 Pot วางตรงข้ามกัน ชุดช่วงล่างหน้า-หลังจากแบรนด์ OHLINS SUSPENSION โดยโช๊คอัพรุ่น NPX ส่วนโช๊คหลังรุ่น TTX36 พร้อมเทคโนโลยี OHLINS Smart EC system generation ที่ 2 ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าระบบกันสะเทือนผ่านแผงหน้าจอเรือนไมล์ได้ พร้อมด้วยฟังก์ชั่น การขับขี่ที่แตกต่างกันได้ถึง 3 แบบ
รถซูเปอร์สปอร์ตทั้งสองรุ่นเปิดรับจองเป็นครั้งแรกในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020 และที่ Honda BigWing ทุกสาขาทั่วประเทศ พิเศษสำหรับลูกค้า 50 คันแรกในประเทศไทย จะได้รับนาฬิกาข้อมือ TISSOT รุ่น T-RACE MARC MARQUEZ 2020 LIMITED EDITION เพิ่มความพิเศษสุดมาพร้อมเลเซอร์ลายเซ็นต์ของ มาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดแชมป์โลก 8 สมัย จาก เรปโซล ฮอนด้า อยู่ที่ด้านหลังเรือน พร้อมสิทธิพิเศษ สามารถเข้าร่วมกิจกรรม Honda Track Xperience จำนวน 4 ครั้ง ภายใน 2 ปี
หากกำลังมองหารถจักรยานยนต์ซูเปอร์สปอร์ตระดับสูง ที่ตอบสนองความต้องการทั้งด้านสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ เทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว คุ้มค่าคุ้มราคา ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade และ ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade SP คือคำตอบที่ “ใช่” ที่สุดสำหรับคุณ…