Motorsportlives

[MotoGP] “รอสซี่” เชื่อ “มารินี-บาสเตียนินี” เฉิดฉายกับรถแข่ง ดูคาติ

“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ นักบิดตำนานโมโตจีพีวัย 42 ปี คาดว่าน้องชายแท้ๆ อย่าง ลูก้า มารินี และแชมป์โลกโมโตทูคนล่าสุดอย่าง เอเนีย บาสเตียนินี จะสร้างผลงานได้โดดเด่นแน่นอนหากได้ “รถแข่งที่ดี และทีมที่ดี” ในการขยับขึ้นสู่โมโตจีพีปีแรก

เมื่อ ทาคาอากิ นาคากามิ นักบิดญี่ปุ่นได้รับการยืนยันให้ใช้รถแข่งตัว่าสุดของ ฮอนด้า ลงแข่งขันในปี 2021 จะยังคงมีเพียง ฟรานโก มอร์บิเดลลี ที่ใช้รถแข่ง M1 ปีเก่าลงบิดให้กับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที รวมถึง รุกกี้อย่าง เอเนีย บาสเตียนินี และ ลูก้า มารินี เท่านั้นที่บิด เดสโมเซดิซี ปีเก่าลงแข่งขันกับ เอสปอนโซราม่า เรซซิ่ง

โดยภายใต้การ “แช่แข็ง” เครื่องยนต์ห้ามไม่ให้มีการพัฒนา นั่นหมายความว่าทั้ง ยามาฮ่า และ ดูคาติ รวมถึงทีมโรงงานอื่นๆ ยกเว้น เคทีเอ็ม และ อพริเลีย จะยังคงใช้รถแข่งที่มีรูปแบบคล้ายคลึงของเดิม

นั่นหมายความว่านักบิดทีมโรงงานของ ดูคาติ อย่าง แจ็ค มิลเลอร์ และ ฟรานเชสโก บันยาญ่า รวมถึง โยฮันน์ ซาร์โก และ ฮอร์เก มาร์ติน จาก พรามัค ดูคาติ จะใช้รถแข่งที่มีพื้นฐานมาจาก เดสโมเซดิซี จีพี 2020 ขณะที่ บาสเตียนินี และ มารินี จะใช้รถแข่งที่มีพื้นฐานจาก จีพี 19

ทั้งนี้ตัวเครื่องยนต์จะต้อง “ยึด” ตามสเป็คเดิมของปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถที่จะพัฒนา แชสซีส์, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และ อัพเกรดแอโรไดนามิก สำหรับรถแข่งจากทุกทีม

ขณะที่ โยฮันน์ ซาร์โก แสดงความกังวลอย่างชัดเจนเกี่ยวกับศักยภาพของรถแข่ง ดูคาติ ก่อนตัดสินใจย้ายร่วมงานกับ อวินเทีย ในปี 2020

ทว่า ดูคาติ ก็ให้การสนับสนุนไอเท่มต่างๆ ให้รถแข่ง จีพี 19 ของ ซาร์โก อย่างเต็มที่ ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายมาสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับทีม ด้วยการพาทีมคว้าโพลแรก และขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรก รวมถึงทำฟาสเตสต์แล็ปได้อีกด้วย

ด้าน “เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ จอมเก๋าชาวอิตาเลียนวัย 42 ปี เชื่อว่าการผสมผสานระหว่างนักบิดทั้ง 2 คน ทีมงานที่ลงตัว และรถแข่งที่ดี น่าจะเพียงพอสำหรับนักบิดวัยรุ่นอย่าง มารินี และ บาสเตียนินี ที่จะสามารถสร้างผลงานที่ร้อนแรงได้ในฤดูกาลแห่งการเป็น “รุกกี้”

“มารินี และ บาสเตียนินี สร้างสิ่งมหัศจรรย์ใน โมโตทู พวกเขาต่อสู้กันจนถึงเรซสุดท้าย ก่อนจะตัดสินแชมป์โลก”

“ใน โมโตจีพี พวกเขาจะมีรถแข่งที่ยอดเยี่ยม นั่นคือ ดูคาติ และมีทีมที่ดี ดังนั้น ผมคิดว่าทั้ง มารินี และ บาสเตียนินี จะฉายแววได้ตั้งแต่ปีแรกของพวกเขาใน พรีเมียร์คลาสฎ รอสซี่ เผย

นอกจากนี้ รอสซี่ ยังยกให้ “โมโตทู” เป็นเวทีของการแข่งขันที่ “ขัดเกลา” ที่แข็งแกร่งในการสร้างนักบิดดาวรุ่งก่อนขยับขึ้นสู่พรีเมียร์คลาส ซึ่งตอนนี้ถือเป็นหลุ่ม “เจเนเรชั่น ใหม่” ใน โมโตจีพี ไปแล้ว โดยเฉพาะแชมป์โลกคนล่าสุดของ ซูซูกิ อย่าง โจอัน เมียร์

ทั้ง บาสเตียนินี และ มารินี ต่างก็คว้าชัยชนะใน โมโตทู มาได้คนละ 3 ครั้ง ในปีที่ผ่านมา

โดย บาสเตียนินี ขยับขึ้นครองแชมป์โลก โมโตทู ในปีที่ผ่านมา โดยมีคะแนนเหนือ มารินี เพียง 9 แต้มเท่านั้น หลังผ่านการแข่งขันสนามสุดท้ายที่ ปอร์ติเมา

Exit mobile version