“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ดาวบิดระดับตำนานของโลก เตรียมที่จะส่งทีมแข่งของตนเองอย่าง VR46 ลุยศึก โมโตจีพี ระดับพรีเมียร์คลาส ในปีหน้า โดยจะตัดสินใจในช่วงเวลาไม่กี่เดือนหลังจากนี้ ชี้อยากใช้รถแข่ง ยามาฮ่า M1 และมีโอกาสบิดร่วมน้องชาย
รอสซี วัย 42 ปี ต้องการใช้เวลา 6-7 เรซ ก่อนตัดสินใจว่าจะ “บิดต่อ” หรือ “รีไทร์” จากการเป็กนักบิด โมโตจีพี ซึ่งเขาเตรียมเปิดตัวกับทีมใหม่อย่าง ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในฤดูกาล 2021 และได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในแง่ผลงานกับทีมใหม่ และอีกหนึ่งประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “อนาคต” ของเขากับ โมโตจีพี
โดยสัญญาปัจจุบันของ รอสซี่ กับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที มีอายุเพียง 1 ปีเท่านั้น
อีกเรื่องที่จะเป็นการ “ตัดสินใจครั้งใหญ่” คือ VR46 ที่กำลังจะขยายขนาดของทีมขึ้นสู่การเป็นทีมแข่งใน พรีเมียร์คลาส ของ โมโตจีพี โดยเริ่มต้นจากการผบักดันน้องชายของ รอสซี่ อย่าง ลูก้า มารินี ที่โปรโมตขึ้นมาบิด โมโตจีพี ปีแรกกับ อวินเทีย ดูคาติ
โดย VR46 จะตัดสินใจครั้งใหญ่เรื่องนี้ กับการสร้างทีมของตัวเองใน โมโตจีพี ฤดูกาล 2022
มารินี นับเป็นนักบิดคนที่ 3 ของ VR46 Academy ที่ได้ขยับขึ้นไปบิดใน โมโตจีพี หลังจากที่ ฟรานโก มอร์บิเดลลี และ ฟรานเชสโก บันยาญ่า ทำได้ก่อนหน้านั้น
ขณะเดียวกัน นักบิด “เจเนเรชั่น” ต่อไปของพวกเขาที่ถูกวางไว้ก็คือ มาร์โก เบซเซ็คคี และ เชเลสติโน วิเอ็ตติ ที่จะบิด โมโตทู ร่วมกันในฤดูกาลนี้
“นักบิดของเราใน VR46 เติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขาพัฒนาได้มากกว่าที่คิด ช่วงเวลาที่เราต้องตัดสินใจจะขึ้นสู่ โมโตจีพี ใกล้เข้ามาทุกที” ซาลุชชี ยืนยัน
“แต่หนทางยังอีกยาวไกล การจะขยับในแต่ละสเต็ปนั้นสำคัญมาก โดยเฉพาะในมุมของการเงินและเศรษฐกิจ แน่นอนว่าเรากำลังเผชิญกับช่วงเวลาหลายเดือนที่สำคัญสุดๆ”
“เรายังไม่รู้ว่าจะใช้รถแข่งค่ายไหนใน โมโตจีพี แต่แน่นอนว่าในใจของเราก็มี ยามาฮ่า เท่านั้นที่เป็นตัวเลือกอันดับ 1”
ปัจจุบันสัญญาของ ยามาฮ่า กับ ปิโตรนาส เอสอาร์ที จะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่ทีมเซ็นสัญญากับ รอสซี่ เพียง 1 ปี แต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่ (ยามาฮ่า กับ เอสอาร์ที) ต่างก็มั่นใจที่จะขยายสัญญาออกไปอีก
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังทิ้งความเป็นไปได้ที่ VR46 จะใช้รถแข่ง ซูซูกิ ลงแข่งขันหากพวกเขาขยับขึ้นสู่ โมโตจีพี จริงๆ ในปี 2022 ซึ่งนั่นเป็นเพียงสมมุติฐานเท่านั้น หากพูดถึงดีกรีที่ ซูซูกิ คว้าแชมป์โลกได้ในปีที่ผ่านมา รวมไปถึง อพริเลีย ที่ยังไม่มีทีมแซ็ตเทิลไลต์ใน โมโตจีพี ด้วย
ทั้งนี้ แชมป์โลก 9 สมัย อย่าง รอสซี่ นับว่าสร้างสถิติอันน่าทึ่งด้วยการขึ้นโพเดี้ยมได้ทุกฤดูกาล นับตั้งแต่เปิดตัวใน โมโตจีพี ตั้งแต่ปี 2000 ทว่าเขาไม่สามารถคว้าชัยชนะได้เลย มาตั้งแต่ปี 2017 ที่ แอสเซ่น
ทั้งนี้ หาก VR46 ที่ตัดสินใจยกเลิกทีมแข่งใน โมโตทรี และหันมา โฟกัสใน โมโตทู ปีนี้ เลือกที่จะส่งทีมลงแข่งขันใน โมโตจีพี ฤดูกาล 2022 และตัว รอสซี่ เองตัดสินใจที่จะแข่งต่อในปีหน้า ก็มีโอกาสที่เขาจะเป็นหนึ่งในนักบิดภายใต้สังกัดของตัวเอง