โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า ออกโรง “บ่น” ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดการปะทะกัน 3 คน ในรอบแรกที่ เลอมองส์ เพราะ “เบรกช้าเกินไป”

โปล เอสปาร์กาโร นักบิดฮอนด้ามีจังหวะสุดหวาดเสียวช่วงขาออกชิเคน “เชอแมง โอ บูฟส์” ของ เลอมองส์ เซอร์กิจ ในรอบแรกของการแข่งขัน เฟรนช์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจังหวะที่เขาพุ่งเข้าไปที่โค้ง และบังคับให้ มอร์บิเดลลี ต้องเบี่ยงเข้าด้านใน จนต้องยกรถขึ้นเพื่อเลี่ยงการชนที่รุนแรง

ทว่าในโค้งต่อไป เอสปาร์กาโร กลับเบรกอย่างหนักเพื่อแซง วาเลนติโน รอสซี่ จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที อีกคัน จนเป็นการบีบให้มุมของ มอร์บิเดลลี เหลือน้อยก่อนจะชนเช้าที่ท้ายรถของ เอสปาร์กาโร และเจ้าตัวก็หลุดลงไปที่บ่อกรวด จนล้มลงไป

โปล เอสปาร์กาโร คิดว่าคนที่ต้องโดนตำหนิในเหตุการณ์นี้คือ มอร์บิเดลลี คนเดียวเท่านั้น แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะถูกระบุว่าเป็น “อุบัติเหตุในการแข่งขัน” (Racing Incident)

“เอาละ, ปัญหามันเกิดขึ้นเพราะ มอร์บิเดลลี พุ่งเข้ามาแรงเกินไป และเขาก็ผิดพลาดในจังหวะเบรกจนชนผมกระดอนออกไป” โปล เอสปาร์กาโร กล่าว

“ด้านนอกผมมี วาเลนติโน ขนาบอยู่ ผมชนเข้ากับ วาเลนติโน นิดหน่อย”

“จริงๆ แล้วผมเจอ วาเลนติโน แล้วหลังจบเรซในแพ็ดด็อค เราพูดคุยกันนิดหน่อยและเขาก็เห็นด้วยกับผม”

“แต่เอาเข้าจริงๆ นะครับ มันชัดเจนว่า ฟรานโก้ เบรกช้าเกินไป และเขาก็ชนเข้าที่ท้ายรถของผม ทำให้ผมเสียหลักไปชน รอสซี่”

“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในเรซ”

“มันคืออุบัติเหตุในการแข่งขัน แต่เราก็ไม่ควรมองข้ามว่าใครเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ มอร์บิเดลลี เบรกช้าเกินไป”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇