มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า เผยเข้าใจ “ข้อจำกัด” ของร่างกายดีชี้ไม่ใช่งานง่ายกับการแข่งขันที่ มูเจลโล และยากที่จะเข้าใกล้กลุ่มหน้าได้ในสภาพ “แทร็กแห้ง”
มาร์เกซ ยอมรับว่าร่างกายของเขายัง “ห่างไกลจากความสมบูรณ์เต็มร้อย… โดยเฉพาะกับการแข่งขันแบบ 2 เรซติดต่อกันใน 2 สัปดาห์” ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของตนเองนับตั้งแต่กลับมาจากอาการบาดเจ็บที่ต้นแขนขวาในรอบ 9 เดือน นั่นคือ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องไปที่ คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์ต่อไปที่ บาร์เซโลน่า
สภาพร่างกายที่ยังไม่เต็มร้อยของ มาร์เกซ ทำให้เขาเองยังไม่สามารถบิดได้อย่างดุดันเช่นเคย รวมถึงการ “เซฟ” ที่ใช้ “ศอก” ซึ่งหายไปอย่างชัดเจน แต่แชมป์โลก 8 สมัยก็อาศัยประโยชน์จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ในการแข่งขันสนามล่าสุดที่ เลอมองส์ ขึ้นนำเรซเป็นครั้งแรกได้ ก่อนจะพลาดล้ม 2 ครั้งจนต้องออกจากการแข่งขัน
มาร์เกซ ลงบิดที่ มูเจลโล ครั้งแรกในปี 2010 กับการแข่งขันในคลาส 125 ซีซี และปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของสถิติเวลาต่อรอบในการแข่งขัน (Best Race Lap) และเวลาในการคว้าโพลด้วย (Best Pole Lap)
เกมล่าสุดของ มาร์เกซ กับการแข่งขันที่ มูเจลโล ต้องย้อนไปในปี 2019 ซึ่งตอนนั้นเขาต้องขับเคี่ยวแย่งชัยชนะกับ ดานิโล เปตรุชชี และ อันเดรีย โดวิซิโอโซ จนถึงรอบสุดท้าย ก่อนเจ้าตัวจะคว้าอันดับ 2 มาครอง
ขณะที่สนามต่อไป มาร์เกซ จะมีเวลาเพียง 5 วัน ก่อนจะเข้าสู่การซ้อมครั้งแรกในวันศุกร์หน้า ในการแข่งขัน คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ ที่ เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลน่า-คาตาลุนญ่า
“ผมมีช่วงสัปดาห์ที่ดีในการฟื้นตัวร่างกายอย่างต่อเนื่อง” มาร์เกซ กล่าวหลังคัมแบ็กลงแข่งขันแล้วทั้งสิ้น 3 สนาม โดยล่าสุดมีแต้มตามจ่าฝูงอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร อยู่ 64 คะแนน
“เราแสดงให้เห็นศักยภาพที่ยอดเยี่ยมในแทร็กเปียกที่ เลอมองส์ และในสุดสัปดาห์นี้เราจะต้องเริ่มทำงานให้ดีตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อหาความคงที่และการหาเรซเพซให้ได้”
“ผมเข้าใจข้อจำกัดของร่างกายตัวเองดี และรู้ดีว่ามันจะเป็นอีกสุดสัปดาห์ที่ไม่ง่ายเลยที่จะขยับเข้าใกล้กลุ่มหน้า ภายใต้สภาพแทร็กแบบแห้ง”
“ตอนนี้เราเดินทางมาถึงการแข่งขันแบบ 2 เรซ ใน 2 สุดสัปดาห์ติดต่อกัน ครั้งแรกของผมในปีนี้ แน่นอนว่ามันต้องการความแข็งแกร่งของร่างกายที่มากกว่าเดิม แต่เราจะสามารถบริหารมันได้” มาร์เกซ กล่าว
ด้านทีมเมทคนใหม่อย่าง โปล เอสปาร์กาโร ที่คว้าอันดับ 8 จากการแข่งขันสนามล่าสุดที่ เลอมองส์ และเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาบิดให้กับ ฮอนด้า ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่ายังห่างไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างมาก
“หลังจากที่ไม่ได้เดินทางมาแข่งขันที่ มูเจลโล ในปีที่ผ่านมา มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากที่ได้กลับมาในปีนี้ การบิดรถแข่งด้วยความเร็วสูงในทางตรงช่วงลงเนินที่นี้ มันคืออะไรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว” เอสปาร์กาโร กล่าว
“เราจะต้องมาดูกันว่ารถแข่งจะทำงานออกมาอย่างไรบ้าง กับแทร็กที่แตกต่างอย่างมากจากสนามที่ผ่านมา สุดสัปดาห์นี้จะมีรถแข่งจำนวนมากที่แข็งแกร่ง (หมายถึงคู่แข่งคนอื่นๆ) แต่ถ้าเราสามารถทำงานได้ดีตั้งแต่การซ้อม ผมคิดว่าเราจะสามารถต่อสู้ในกลุ่มหน้าได้”
“ต่อจากนั้นเราจะเดินทางไปแข่งต่อที่ บาร์เซโลน่า ถือเป็นช่วง 2 สุดสัปดาห์ที่น่าตื่นเต้นมา”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇