มาร์ค มาร์เกซ นักบิดต่างดาวจาก เรปโซล ฮอนด้า ออกโรงยอมรับว่า “แทคติก” ที่ใช้ในการควอลิฟาย โมโตจีพี ที่ มูเจลโล เมื่อคืนวันเสาร์ “ไม่แฟร์จริงๆ” และเปิดเผยว่า “สมควรแล้ว” ที่ มาเวริค บีญาเลส จะโมโห
จังหวะการบิดตามของ มาร์เกซ ที่พยายามชิงเอา “สลิปสตรีม” จาก บีญาเลส ในรอบ Q1 ของ โมโตจีพี สนาม 6 รายการ อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ ถูก “วิพากษ์วิจารณ์” อย่างหนัก ถึง “สปิริต” ของแชมป์โลก 8 สมัย
ในรอบ Q1 ต้องมาลุ้นกันถึช่วง 5 นาทีสุดท้าย โดยไฮไลต์อยู่ที่การ “เล่นเกม” สลิปสตรีม ระหว่าง มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า และบีญาเลส นักบิดสแปนิชจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ถึงขนาดที่บิดตามกลับเข้า “พิตเลน”
โดยในรอบ Q1 ปรากฏว่า มาร์เกซ กดเวลาเป็นอันดับ 1 ทะลุเข้าสู่รอบ Q2 ได้สำเร็จ ตามด้วย อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร นักบิดสแปนิชจาก อพริเลีย เรซซิ่ง ที เกรซินี ในอันดับ 2 ส่วน บีญาเลส ทำเวลารอบสุดท้ายได้ดีแต่พลาดหลุดโค้งสุดท้ายจนไม่สามารถผ่านเข้าสู่ Q2 ได้
อย่างไรก็ดี มาร์เกซ ทำได้ดีที่สุดเพียงคว้ากริดที่ 11 ส่วน บีญาเลส จะได้เริ่มเกมจากกริดที่ 13 ในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ บีญาเลส ก็ไม่ได้ตำหนิ มาร์เกซ จากเหตุกาณณ์ดังกล่าว แต่ยอรับว่าตัวเองก็เร็วไม่พอเช่นกัน
มาสซิโม เมเรกัลลี ทีมบอสของ ยามาฮ๋า โมโตจีพี ออกมาวิจารณ์ว่า “แทคติก” ของ มาร์เกซ ไม่แฟร์ ขณะที่เจ้าตัวก็ยอมรับและกล่าวคำขอโทษไปยัง บีญาเลส เช่นกัน
“ใช่ผมเข้าไปคุยกับ มาเวริค ก่อนจะให้สัมภาษณ์” มาร์เกซ เผย
“ก่อนอื่นเลย, ผมขอโทษเขาเพราะผมรู้ดีว่ามันไม่แฟร์อย่างยิ่ง และผมก็บอกไปตามตรง ว่ามันสมควรแล้วละที่นายจะโกรธ”
“แต่ในอีกมุมหนึ่ง วันนี้ในช่วงเช้าผมรู้สึกไม่เลว แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงบ่ายวันผมกลับรู้สึกแย่มากๆ”
“ผมหมายถึงเหตุผลด้านสภาพร่างกาย รวมถึงรถแข่ง และทุกๆ อย่าง มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีนัก และต้องหยุดซ้อมก่อนเวลาในรอบ FP4 ผมบอกกับทีมว่าผมไม่มีความรู้สึกที่ดีเลยกับรถแข่งหรือทุกๆ อย่าง และเราจำเป็นจะต้องขี่ตามใครสักคน”
“เราเช็กจากรายชื่อแล้ว คนที่เร็วที่สุดคือ บีญาเลส หากมันมีคนอื่น… เราก็จะเลือกตามคนๆ นั้น”
“จากนั้นผมขี่ตามเขา มันคือแทคติคเพราะมันคือทางเดียวที่จะปรับปรุงเวลา”
“ผมอยากที่จะขยับขึ้นไปอีกระดับ เหมือนที่เคยทำได้ในปีที่ผ่านๆ มา”
“แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมรู้เพราะเข้าใจความรู้สึกของ มาเวริค และนั่นคือเหตุผลที่ผมขอโทษเขา”
“แต่ท้ายที่สุดแล้วมันไม่ผิดกฎ มันยังอยู่ในลิมิต”
“นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำเพื่อค้นหาสถานการณ์ที่ดีที่สุดของตัวเอง เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด”