“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ตำนานนักบิดวัย 42 ปี ออกโรงแสดงความเห็นว่า “หลักอากาศพลศาสตร์” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ โมโตจีพี ยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะ “วิงเล็ต” ที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์ และรูปแบบด้านเทคนิคของรถแข่งอย่างมาก
รอสซี่ ผ่านยุคสมัยของการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกมาอย่างโชกโชน โดยเฉพาะในพรีเมียร์คลาสนับตั้งแต่เครื่อง 500cc, 990cc, 800cc และ 1000cc ทั้งรูปแบบของ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ รวมถึง วี4, 4 สูบเรียง และ V5 จากการลงบิดให้กับ ฮอนด้า, ยามาฮ่า และ ดูคาติ
นอกจากนี้ เขายังผ่านทั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์จากแต่ละทีมโรงงาน รวมถึงอิเล็กทรอนิกส์กลาง, ยางทั้ง มิชลิน และ บริดจ์สโตน นอกจากนี้ยังมี “วิงเล็ต” และระบบควบคุมความสูงต่ำของรถแข่ง ตลอดการบิดในพรีเมียร์คลาส 22 ฤดูกาล
ในแต่ละช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงด้านเทคนิค จำเป็นต้องมีการปรับรูปแบบการขับขี่ให้สอดคล้องกัน ขณะที่ “วิงเล็ต” นับเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดของรถแข่ง โมโตจีพี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดย รอสซี่ ยืนยันว่า “วิงเล็ต” ยังคงมีพื้นฐานที่เป็นเสน่ห์ และมีผลต่อการแข่งขันน้อยกว่า “ยาง” และ “เบรก” ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการแข่งขันในยุค “โมเดิร์น โมโตจีพี” โดยเฉพาะด้านเทคนิคการขับขี่
“สำหรับผมแล้ว สไตล์การขับขี่มาเปลี่ยนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะท่วงท่าและตำแหน่งร่างกายบนรถแข่ง และการที่นักบิดแต่ละคนโน้มตัวไปข้างหน้าเยอะมากด้วยหัวไหล่ และข้อศอก”
“ส่วนตัวผมวิธีการเข้าโค้ง และไลน์ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะตอนนี้ด้วย รถแข่ง, ยาง และเบรก ที่เรามีในปัจจุบัน คุณสามารถเข้าโค้งได้เร็วกว่าเมื่อก่อนมาก ดังนั้นสไตล์การบิดจึงเปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย หากเทียบกับรอบ 5 ปีที่ผ่านมา”
“แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปมากแค่ไหน และมันมีความสัมพันธ์กับระบบแอโรไดนามิกมากน้อยเพียงใด”
“ท้ายที่สุดแล้ว แอโรไดนามิก จะช่วยให้คุณมีอัตราเร่งที่ดีขึ้น ดังนั้นมันทำให้คุณไปถึงโค้งได้เร็วกว่าเดิม นั่นเท่ากับว่าคุณจะสามารถเบรกได้หนักกว่าเมื่อก่อน ขณะเดียวกันคุณก็สามารถทิ้งน้ำหนักที่ด้านหน้าได้มากกว่าเดิม”
“การที่เบรกได้หนักกว่าเดิม จะทำให้การยกรถเปลี่ยนทิศทางนั้นมีน้ำหนักมากขึ้น ดังนั้นคุณจะต้องมีความแข็งแรงมากกว่าเดิม โดยปกติแล้วร่างกายจะรับบทหนักขึ้น”
“สิ่งเหล่านี้คือข้อแตกต่างที่เกิดขึ้นจากหลักอากาศพลศาสตร์ มันมากกว่าเรื่องสไตล์การขับขี่”
ขณะที่นักบิดหลายๆ คน มีการใช้ร่างกายมาช่วยในร่างสไตล์การขับขี่เยอะมาก, รอสซี่ กลับเชื่อว่าสไตล์ดั้งเดิมที่มีการนำมาใช้มากขึ้น ก็ดูจะทำออกมาได้ดีเช่นกัน
“ทุกๆ คนมีสไตล์ของตัวเอง และผมเห็นนักบิดหลายคนมากที่เร็วสุดๆ แม้ว่าพวกเขาจะมีตำแหน่งที่ปกติเมื่ออยู่บนรถแข่ง อย่างเช่น แจ็ค มิลเลอร์ หรือ ฟรานโก มอร์บิเดลลี” รอสซี่ กล่าว
แชมป์โลก 9 สมัย ยอมรับว่าเขาเองไม่ค่อยอุ่นใจนักกับ “ยางหลัง” ที่มีโครงสร้าง “นุ่ม” กว่าเมื่อก่อน ซึ่งใช้ในโมโตจีพียุคปัจจุบัน ขณะที่เขาอยู่ระหว่างการเตรียมประกาศการตัดสินใจอนาคต สำหรับ โมโตจีพี 2022 ในช่วงสัปดาห์หน้า