ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร จ่าฝูงโมโตจีพีชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ยอมรับว่าต้องปรับสไตล์การบิดรถแข่ง M1 ปี 2021 “ที่ไม่เป็นธรรมชาติ” อย่างมาก และต้องดุดันดุจ “สัตว์ป่า” เมื่อลงบิดในสนามแต่ผลที่ได้คือมีความเร็วสูงขึ้น
กวาร์ตาราโร คว้าชัยชนะมาครอง 4 ครั้งจาก 9 สนามแรกของปี 2021 พร้อมกับรั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ เหนือคู่แข่ง 34 คะแนน ก่อนเข้าสู่ช่วง “ซัมเมอร์เบรก”
ดาวบิดเฟรนช์แซงหน้าผลงานของตัวเองในปีที่ผ่านมาลงไปแล้ว นั่นคือการคว้า 3 ชัยชนะ และดีกว่า 6 โพเดี้ยมที่ทำได้จากการคว้าอันดับ 3 ทั้งสองครั้งที่ ฝรั่งเศส และเยอรมนี
หลังจากลงบิดรถแข่ง M1 2020 ที่ไม่สอดคล้องกันอย่างมาก โดย กวาร์ตาราโร ยอมรับว่าดูเหมือนรถแข่งในปีนี้ จะได้รับการปรับปรุงอย่างมากในส่วนหน้า จากช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา (พักฤดูกาล)
อย่างไรก็ดี กวาร์ตาราโร ก็ยังเสริมว่าเขาต้องเปลี่ยนรูปแบบการบิดของตัวเองเป็นแบบใหม่ ที่ “ไม่เป็นธรรมชาติ” ในแบบของตัวเอง
“ผมคิดว่านักบิดทุกคนจะต้องปรับตัวให้เขากับรถแข่งของเขาเอง” กวาร์ตาราโร กล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์ส่วนตัวกับ Motorsport.com
“ผมขี่ในแนวทางที่เปลี่ยนไปจากปีที่ผ่านมา มันไม่เป็นธรรมชาติเสียเลย แต่มันกลับออกมาดี”
“ผมสามารถรับรู้ถึงขีดจำกัด และสัมผัสได้ว่าสามารถไปได้เร็วจริงๆ ซึ่งในตอนนี้ผมคิดว่ามันกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ยอดเยี่ยม”
“ดังนั้น ในปี 2019 ก็เหมือนกัน ซึ่งในตอนนั้นและปัจจุบันผมโฟกัสและมุ่งมันทำงานกับรถแข่งอย่างมาก แน่นอนว่ามันเจ๋งสุดๆ”
เมื่อถามถึงสไตล์การบิดที่ “ฝืนธรรมชาติ” ในตอนนี้ กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “ปกติแล้ว ผมเป็นนักบิดที่ขับเร็วมากในโค้งความเร็วสูง แต่ตอนนี้ผมพยายามขี่ให้ดุดันมากขึ้น (เหมือนสัตว์ป่า) นั่นคือ เบรกลึกมากขึ้น และพยายามบิดไปในทิศทางที่แตกต่าง”
“อย่างที่ เยอรมนี ที่ผมสามารถไปได้เร็วขึ้น แต่ผมก็ต้องคำนึงเผื่อด้วยหากผมไปได้เร็วขึ้นมันจะไมสามารถเลี้ยวได้ ดังนั้น ผมจำเป็นต้องหาแนวทางที่เปลี่ยนไปมากขึ้น ที่ช่วงขาออกโค้ง”
“มี 2-3 สนาม ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ดังนั้นมันจะไม่เป็นไปตามธรรมชาติแทบทั้งหมด แต่คุณจำเป็นจะต้องปรับตัวและหาวิธีจัดการกับมัน”
“ถ้าคุณช้าเมื่ออยู่ในโค้งหนึ่ง แต่อีกโค้งคุณจะมีความเร็วได้”
“ดังนั้นมันไม่เป็นธรรมชาติและก็ไม่ง่าย แต่เมื่อคุณเข้าใจรถแข่ง มันจะเร็วขึ้นและง่ายมากขึ้นในการขับให้ให้มีความเร็ว”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇