คณะกรรมการตัดสินการแข่งขัน (สจ๊วต) ของ เอฟไอเอ ปัดคำร้องของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง ที่ยื่นหลักฐานใหม่หวังให้ “พิจารณา” โทษของ ลูอิส แฮมิลตัน อีกครั้งจากการชนกับ แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ที่ ซิลเวอร์สโตน
แฮมิลตัน ปะทะกับ เวอร์สแท็พเพ่น ในรอบแรกของ บริติช กรังด์ปรีซ์ จนทำให้นักขับเรดบูลล์ชนเข้ากับ “กองยาง” ด้วยความเร็วถึง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง และเขาก็ถูกลงโทบวกเวลา 10 วินาที จากเหตุการณ์ดังกล่าว
คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอสของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง แสดงท่าทีโมโหสุดขีด และทีมของเขาได้ส่งคำร้องเพื่อให้ “สจ๊วต” ตรวจสอบกรณีดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งได้มีการพูดคุยกับ สจ๊วต และตัวแทนจากทั้ง เมอร์เซเดส และ เรดบูลล์ ผ่านวีดีโอคอล เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่ ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์
ตามมาตรา 14 ของ International Sporting Code (ISC) ที่ควบคุมโดย เอฟไอเอ ระบุว่า “หากในการแข่งขันที่เป็นการชิงแชมป์ของ เอฟไอเอ, หรือถ้วยรางวัล รวมถึงซีรีส์ต่างๆ มีการค้นพบองค์ประกอบใหม่ที่สำคัญและเกี่ยวกับอุบัติเหตุ (หรือเหตุการณ์ที่เป็นคดี) ซึ่งไม่สามารถนำตรวจสอบได้ในขณธเกิดเหตุได้ จะสามารถนำมาโต้แย้งคำตัดสินได้ ดังนั้น สจ๊วต ของ เอฟไอเอ จึงจะเปิดการพิจารณาเหตุการณ์ใหม่อีกครั้ง”
ทั้งนี้ เรดบูลล์ ได้ส่งหลักฐาน 4 ชิ้น ซึ่งเป็นพรีเซนเตชั่น สไลด์ ที่ทีมทำขึ้น เพื่อแสดงต่อ เอฟไอเอ ได้แก่ :
- ข้อมูล GPS สำหรับรถแข่งของทั้ง แฮมิลตัน และ เวอร์สแท็พเพ่น
- ข้อมูล GPS วาด “การเปรียบเทียบข้อกล่าวหา” จากทิศทางการเข้าโค้งของ แฮมิลตัน ที่ ปะทะกับ เวอร์สแท็พเพ่น และจังหวะที่ แฮมิลตัน แซง ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ในโค้งเดียวกัน
- การจำลองรอบที่เกิดเหตุการณ์
- สิ่งที่อธิบายว่าจังหวะดังกล่าวเป็น “การขับที่ออกแบบใหม่ (ไม่ปกติ)” ของ แฮมิลตัน ในไลน์ของรอบแรกที่ ซิลเวอร์สโตน โดยเปรียบเทียบกับข้อมูลการขับของ อเล็กซ์ อัลบอน
หลักฐานชิ้นสุดท้ายที่นำเสนอแก่ เอฟไอเอ นั้น ถูกรวบรวมระหว่างวันถ่ายทำของทีม ซึ่งดำเนินการโดยนักขับสำรองของทีม (อัลบอน ทดสอบยางใหม่ของงปี 2022)
โดยหลังจากที่ดูข้อมูลที่ เรดบูลล์ นำเสนอทั้ง 4 ชั้น สจ๊วต ตัดสินว่าหลักฐานทั้งหมดไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่เป็น “องค์ประกอบใหม่ที่สำคัญและเกี่ยวข้อง” กับเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ไม่มีการพิจารณาเหตุการณ์อีกครั้ง