ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยชาวอังกฤาจาก เมอร์เซเดส เปิดเผยว่าโดน “อาการแทรกซ้อน” หลังติดเชื้อ “โควิด-19” เล่นงานช่วงท้ายเรซ ฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ หลังบู๊หนักจน “เวียนศีรษะรุนแรงและตาพร่ามัว”
แฮมิลตัน ทำท่าจะเจอเรซที่ไม่ยากนัก หลังเกิดเหตุในรอบแรกซึ่งเขารอดพ้นมาได้ในตำแหน่งผู้นำ ทว่าความิดพลาดของทีมส่งผลให้เขาต้องออกสตาร์ทจากกริดที่ด้วยยาง “อินเตอร์มิดิเอต” เพียงคันเดียวบนกริด ขณะที่นักขับอีก 13 คนเข้าพิตเปลี่ยนยาง “สลิค” ออกมาหลังรอบวอร์มอัพในการรีสตาร์ท
อย่างไรก็ดี แฮมิลตัน เข้าพิตในรอบถัดมา และออกมาต่อท้ายกลุ่มก่อนจะไล่บู๊ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 2 (หลัง เวทเทล โดนปรับ) ซึ่งงานหนักของเขาอยู่ที่การไล่บด เฟอร์นันโด อลองโซ อดีตทีมเมทจาก อัลพีน
แฮมิลตัน แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจนเมื่อให้สัมภาษณ์หลังแข่ง ก่อนจะขึ้นรับรางวัลบนโพเดี้ยมด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ท่ามกลางความสงสัยของแฟนๆ
โดยหลังจบทุกขั้นตอน แฮมิลตัน เข้าพบแพทย์ประจำทีมทันที เพื่อเช็กอาการโดยละเอียด ก่อนที่นักขับชาวอังกฤาจะออกมาเปิดเผยว่า “ผมโอเค หลังมีอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรง และทุกอย่างก็พร่ามัวเล็กน้อยตอนอยู่บนโพเดี้ยม”
“ผมต่อสู้มาตลอดทั้งปีด้วยสุขภาพที่ดี และพยายามรักษาสุขภาพให้แข็งแรงหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว (ตอนที่เขาติดเชื้อโควิด) และมันยังคงเป็นการต่อสู้กับร่างกายตัวเองอยู่เสมอ”