“ท็อปกัน” มาเวริค บีญาเลส นักบิดสแปนิชยอมรับว่าประทับใจกับเครื่องยนต์ V4 ของรถแข่ง RS-GP โดยเฉพาะ Engine Brake แม้แตกต่างจากยามาฮ่า แต่เชื่อใช้เวลาปรับตัวไม่นาน ย้ำยังไกลจาก “ลิมิต” สูงสุดซึ่งต้องปรับปรุงอีกครั้งเมื่อลงสนามที่ อราก้อน
บีญาเลส ลงทดสอบกับ อพริเลีย ครั้งแรกภายใต้การบิดรถแข่ง RS-GP เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม-1 กันายนที่ผ่านมา ที่ มิซาโน หลังแยกทางกับ ยามาฮ่า อย่างเป็นทางการ
โดยล่าสุด อพริเลีย ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า บีญาเลส จะลงบิดให้กับทีมในฤดูกาล 2022 และเปิดตัวในฐานะนักบิดคนใหม่ของทีม ตั้งแต่สนามหน้าของ โมโตจีพี ระหว่างวันที่ 10-12 กันยายนนี้ ที่ มอเตอร์แลนด์ อราก้อน โดยจะลงบิดแทนที่ ลอเรนโซ ซาวาดอรี นักบิดอิตาเลียน
บีญาเลส เปิดเผยว่า “มีความรู้สึกเชิงบวกกับรถแข่ง RS-GP อย่างรวดเร็ว”
ทั้งนี้ บีญาเลส ยอมรับว่าเขายังไปไม่ถึงขีดจำกัดของตัวเองบนรถแข่ง RS-GP แต่ก็ชื่นชมทั้ง อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร และ ลอเรนโซ ซาวาดอรี ในการพัฒนารถแข่งคันนี้แบบก้าวกระโดดในปีนี้
“ผมยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ แต่แน่นอนว่าผมจะสามารถเริ่มต้นบิดได้อย่างสุดความสามารถ เพราะรถแข่งมีความแตกต่างอย่างมาก รวมถึงเครื่องยนต์ ดังนั้น ผมยังต้องทำความเข้าใจหลายมันอยู่นิดหน่อย” บีญาเลส อธิบาย
แต่ผมคิดว่าทั้ง อเล็กซ์ และ ลอเรนโซ ต่างก็ทำงานของพวกเขาได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งรถแข่งอยู่ในระดับที่สูงมาก”
“มันมีความแตกต่าง (กับรถแข่งยามาฮ่า) แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก ดังนั้น ผมคิดว่าจะสามารถปรับปรุงตัวเองได้อย่างมาก ภายในเวลาอันสั้น”
“ผมยังห่างไกลจากการเค้นศักยภาพสูงสุดของรถแข่งคันนี้ แต่ แต่ช่วงเวลานั้นมันมาถึงค่อนข้างง่ายสำหรับผม และนั่นคือสิ่งสำคัญ”
สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนสำหรับ บีญาเลส ในการย้ายจากรถแข่ง ยามาฮ่า มาบิดให้กับ อพริเลีย คือคาแร็กเตอร์เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง (inline four-cylinder engine) ของ M1 มาเป็นเครื่องยนต์ V4 ของ RS-GP
“ผมสังเกตได้ถึงความแตกต่างอย่างมาก เพราะมันเป็นคุณสมบัติที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง” บีญาเลส กล่าวถึงความแตกต่างของเครื่องยนต์รถแข่งทั้งสองค่าย
“ผมต้องเรียนรู้ระหว่างการลงบิดในไลน์ของสนาม เพราะมันแตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งผมเคยชินกับอัตราเร่งแบบไหลลื่น (ในรถแข่ง M1) แต่ด้วยรถแข่งคันนี้ (RS-GP) คุณจะสามารถเร่งความเร็วปลายได้อย่างมาก”
“สิ่งที่ผมชอบจริงๆ คือ เอ็นจิ้น เบรก (engine braking) แต่สัมผัสแรกกับคันเร่งก็ยอดเยี่ยมจริงๆ และผมคิดว่าสิ่งเหล่านั้นจะช่วยให้ขับขี่ได้ดีในแทร็กเปียก”
“แน่นอนครับกับการทดสอบเป็นเวลา 2 วันที่นี่ แม้ผมจะแฮปปี้มาก แต่คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะประเมินจากสุดสัปดาห์การแข่งขันจริง เพื่อดูว่าระดับของศักยภาพที่แท้จริงของคุณอยู่ตรงไหน”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇