ราซลัน ราซาลี บิ๊กบอส อาร์เอ็นเอฟ เรซซิ่ง โมโตจีพี (RNF Racing MotoGP) ยืดอกรับว่าการโปรโมต ดาร์ริน บินเดอร์ นักบิดอาฟริกาใต้ขยับจาก โมโตทรี ขึ้นไปบิดใน โมโตจีพี ถือเป็นความเสี่ยงของทั้งทีมและนักบิด แต่ชี้มองเห็นศักยภาพดาวบิดจอมทิ่มรายนี้
บินเดอร์ กลายเป็นนักบิดคนแรกต่อจาก แจ็ค มิลเลอร์ ที่กระโดดจาก โมโตทรี ข้ามขึ้นไปแข่งขัน โมโตจีพี ในปี 2015 โดยดาวรุ่งชาวอาฟริกาใต้จะบิดให้กับ WithU Yamaha RNF MotoGP Team ในปี 2022
ผู้ชนะการแข่งขัน โมโตทรี ถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาให้กับการแข่งขันรุ่นใหญ่ จากสไตล์การบิดที่ก้าวร้าวในรุ่นเล็ก โดยเฉพาะจังหวะที่เขาบิดชนรถแข่งของ เดนิส ฟอกเจีย นักบิดอิตาเลียนในสนามรองสุดท้าย ส่งผลให้ เปโดร อคอสต้า คว้าแชมป์โลกไปครอง
อย่างไรก็ดี ราซาลี เชื่อว่าพวกเขามี “บุคลากรประสบการณ์สูง” ในทีมที่จะช่วยพัฒนาให้ บินเดอร์ กลายเป็นนักบิดที่แข็งแกร่งใน โมโตจีพี และไม่มี “แรงกดดัน” มากเกินไป
“เมื่อถึงเวลา จะมี วิลโก (ซีเลนเบิร์ก), ผู้จัดการทีมของเขา และหัวหน้าช่าง (โน เฮอร์เรร่า คริสปปี) ช่วยกันปั้นเขา และพัฒนาในแง่ของแนวทางและอื่นๆ” ราซาลี เผย
“เราจะให้เวลากับเขา และจะไม่ทำให้เขาอยู่ภายใต้ความกดดันที่ไม่เหมาะสม”
“แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์จะต้องเยอะมาก เมื่อนักบิดแบบเขากระโดดข้ามจาก โมโตทรี ไปยัง โมโตจีพี”
“มันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราเชื่อมันในตัวเขา เพราะเห็นศักยภาพในตัวของ ดาร์ริน”
“ใช่ครับ,มันคือความเสี่ยงครั้งใหญ่ และโดยเฉพาะกับตัวของ ดาร์ริน เอง แต่เรามีคนที่มีความสามารถมากมาย และมีประสบการณ์อยู่รอบตัวเขา ซึ่งผมเชื่อว่ามากพอที่จะแนะนำเขาได้อย่างเหมาะสม”
“สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้แน่ใจว่าเขาจะก้าวหน้าไปด้วยดี คุณไม่มีทางรู้เลย เพราะนี่คือ โมโตจีพี เขาอาจจะสามารถสร้างเซอร์ไพรซ์ให้ทุกคนเห็นก็ได้”