ฮอนด้า ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จ่อกลับลำเปลี่ยนแผนป้อน “เพาเวอร์ ยูนิต” โดยตรงจากประเทศญี่ปุ่นให้กับ “เรดบูลล์” อีกครั้งในศึก ฟอร์มูล่าวัน ไปจนถึงฤดูกาล 2025 หรือสิ้นสุดกฎ “เทอร์โบ ไฮบริด” แม้ประกาศแยกทางไปแล้วสิ้นปีที่ผ่านมาก็ตาม
ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อ “ยุติ” บทบาทในฟอร์มูล่าวัน ส่งผลให้ “เรดบูลล์” จะต้องดำเนินการเองในหน่วยงาน “เรดบูลล์ เพาเวอร์เทรน” เพื่อพัฒนา “เพาเวอร์ ยูนิต” สำหรับปีนี้จากการใช้เชื้อเพลิงแบบ E5 ไปสู่ E10 ในฤดูกาลที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
แผนเดิมของ “เรดบูลล์” ที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้คือการก่อตั้งโรงงานแห่งใหม่ “เรดบูลล์ เพาเวอร์เทรน” ขึ้นมาเพื่อดำเนินการเรื่อง “เพาเวอร์ยูนิต” โดยจะมีการถ่ายโอน “องค์ความรู้” และ “บุคลากร” จาก “ฮอนด้า เรซซิ่ง เดเวลล็อปเมนต์” ในสหราชอาณาจักรมาทำงานให้กับพวกเขา เพื่อสานต่อการทำงานให้ ซึ่งจะยังคงใช้ “เพาเวอร์ ยูนิต” จาก ฮอนด้า ทั้งหมด รวมถึงการสนับสนุนด้านวิศวกรรมเต็มรูปแบบในสนามแข่งขัน สำหรับปี 2022 เท่านั้น
และหาก “เรดบูลล์ เพาเวอร์เทรน” สามารถที่จะดำเนินการเองได้ ก็จะดำเนินการสร้างชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องยนต์ ฮอนด้า ในโรงงานของพวกเขาที่ มิลตัน คีย์ส นับตั้งแต่ปี 2023, 2024 และ 2025 ขณะเดียวกัน “เรดบูลล์ เพาเวอร์เทรน” ก็จะเดินหน้าโครงการของตนเองสำหรับกฎใหม่ของ ฟอร์มูล่าวัน 2026 ไปพร้อมๆ กัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇
[F1] “เรดบูลล์-ฮอนด้า” จับมือกันต่อ! ร่างแผนทำงานร่วมกันปี 2022
อย่างไรก็ดี เฮลมุต มาร์โก ผู้บริหารระดับสูงด้านมอเตอร์สปอร์ตของ เรดบูลล์ ได้เปิดเผยว่าแผนดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง และความตั้งใจในตอนนี้คือ “ฮอนด้า” จะยังคงเป็นฝ่ายจัดหาเครื่องยนต์ “สำเร็จรูป” จากประเทศญี่ปุ่นให้กับ เรดบูลล์ และ อัลฟาทาวรี่ ไปจนถึงสิ้นปี 2025
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นด้วยเหตุผลในการขจัดปัญหาด้านเทคนิค ที่อาจเกิดขึ้นกับศักยภาพเครื่องยนต์สำหรับ เรดบูลล์ และ อัลฟาทาวรี ในฤดูกาล 2022 เป็นต้นไป รวมถึงการควบคุมคุณภาพ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการย้ายฐานปฏิบัติการจาก ญี่ปุ่น ไปยัง สหราชอาณาจักร
ขณะเดียวกัน ก็จะยังเป็นการเปิดโอกาสให้ เรดบูลล์ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับกฎใหม่ในปี 2026 ภายใต้ “เพาเวอร์ ยูนิต” ของตนเอง โดยไม่ต้องทุ่มเทบุคลากรมาทำงานสำหรับ เพาเวอร์ ยูนิต ในช่วง 3 ฤดูกาลต่อจากนี้
นับเป็นข่าวใหญ่ที่ต้องจับตาอย่างมากสำหรับ เอฟวัน เพราะดูเหมือนว่า เรดบูลล์ เพาเวอร์ เทรน อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับการเป็น “เบส” เอง และยังต้องคำนึงถึงเรื่องประสิทธิภาพจากการย้ายฐานการพัฒนาด้วย…อีกอย่างคือในปีนี้ เอฟวัน จะเปลี่ยนเชื้อเพลิงจาก E5 ไปเป็น E10 การดำเนินการค่อนข้างละเอียดอ่อน…
แม้จะยังไม่มีการยืนยันแผนนี้… แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะจะเป็นการที่ เรดบูลล์ จะมีเวลาเตรียมการสำหรับ เพาเวอร์ยูนิต ของตัวเองในปี 2026 รวมถึงการก้าวไปร่วมสัมปทานของ VW อีกด้วย…
การบอกว่า ฮอนด้า กลับลำคงไม่ถูกนัก น่าจะเป็น เรดบูลล์ เปลี่ยนแผน และเจรจาด้านธุรกิจแผนใหม่กับ ฮอนด้า มากกว่า…ซึ่งพอมาถึงตรงนี้ อาจจะกลายเป็น เรดบูลล์ ต้องจ่ายตังค์ซื้อ เพาเวอร์ ยูนิต ประกอบสำเร็จและการซัพพอร์ทด้านวิศวกรรมอย่างเต็มรูปแบบเช่นเคยจาก ฮอนด้า ถึงจะถูก
“เรามีการเปลี่ยนแผน ซึ่งมันแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง” เฮลมุต มาร์โก กล่าว
“จากเดิมที่มีการตัดสินใจให้พวกเขาผลิตเครื่องยนต์ให้เราสำหรับปี 2022 แต่ตอนนี้เราเปลี่ยนแผนแล้ว และทุกอย่างจะยังคงดำเนินการต่อไปถึงปี 2025”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇