ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกชาวฝรั่งเศส แสดงอาการวิตกอย่างชัดเจน กับศักยภาพรถแข่งยามาฮ่า หลังทำได้เพียงอันดับ 9 ใน กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ทั้งที่ชนะในปีที่ผ่านมา เผย “เป็นกังวล” กัลการป้องกันแชมป์โลกอย่างมาก
“เอลดิอาโบล” ไม่ได้ปิดบังอะไรถึงการพัฒนาที่ติดขัดของรถแข่ง ยามาฮ่า โดยเฉพาะเรื่องความเร็วทางตรงจากรถแข่ง M1 โดยเปิดเผยในช่วงพรีซีซั่นเทสต์ว่าได้ไปถึงขีดจำกัดของ M1 2022 แล้ว
กวาร์ตาราโร ไม่สามารถทำได้ดีไปกว่าการออกตัวจากกริดที่ 11 หลังเจอปัญหาอย่างในการควอลิฟาย แต่ก็ยังได้รับการคาดการณ์จากคู่แข่งว่าจะสามารถกลับสู่ “เรซเพซ” ที่แข็งแกร่งได้ในการแข่งขัน 22 รอบสนามที่ โลแซล
อย่างไรก็ดี กวาร์ตาราโร กลับไม่สามารถรักาาความได้เปรียบของการแข่งขันได้เลย แม้จะทะยานขึ้นไปถึงอันดับ 7 หลังออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแรก แถมยังโดนชิงอันดับ 8 ไปช่วงทางตรงหน้าเส้นชัย โดย โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดเฟรนช์จาก พรามัค เรซซิ่ง
โดย กวาร์ตาราโร จบการแข่งขันในอันดับ 9 ตามหลังผู้ชนะอย่าง เอเนีย บาสเตียนินี ในรถแข่ง ดูคาติ เดสโมเซดิซี จีพี21 ถึง 10.543 วินาที
วีดีโอสรุปการแข่งขัน กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ 👇👇👇
และด้วยพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของ 5 ค่ายคู่แข่งอย่าง ดูคาติ, ฮอนด้า, ซูซูกิ, เคทีเอ็ม และ อพริเลีย ที่จบการแข่งขันนำหน้าเข้าอยู่ ส่งผลให้ กวาร์ตาราโร แสดงความไม่มั่นใจอย่างชัดเจนกับแพ็คเกจรถแข่ง M1 ของเขาในปีนี้
“อืมมม อย่างที่รู้ดีว่าปีที่แล้ว ยามาฮ่า ชนะได้ทั้ง 2 เรซที่นี่ (กาตาร์) และในตอนนี้เราก็จบการแข่งขันตามหลังคนอื่นๆ ค่อนข้างห่าง แน่นอนครับ ผมกังวลมาก” เขากล่าว
“ผมจะไม่พูดเลยว่าผมมั่นใจ เพราะเราได้ออกตัวจากแถวที่ 4 แถมยังหล่นไปใน Q1 หลังผ่านการซ้อม 3 ครั้งแรกที่ กาตาร์”
“ดังนั้น ตอนนี้ผมต้องบอกว่าผมไม่สามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ แต่ผมก็พูดอยู่เสมอว่า ‘ผมไม่ใช่วิศวกร’ นั่นคือในมุมของผม”
“หน้าที่ของผมคือลงไปบิดให้เต็มร้อย และมุ่งมั่นกับทุกๆ เรซ และผมก็ใส่เต็มร้อยไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขใดๆ ไม่ว่าจะต่อสู้เพื่อชัยชนะ อันดับ 3, 5 หรือ 9 ผมก็ใส่เต็มเสมอ”
“ดังนั้น นั่นคือสิ่งที่ผมยืนยันได้เสมอว่าผมจะทุ่มเทเต็มร้อย ไม่ว่าจะอยู่อันดับไหนก็ตาม”
กวาร์ตาราโร อธิบายว่าสิ่งที่ทำให้เรซนี้ออกมาผิดพลาดไปหมด เพราะแรงกดที่ยางหน้ามันทะยานขึ้นไปติดเพดาน (ลิมิต) ตั้งแต่ 2 รอบแรก”
นี่คือปัญหาที่นักบิดยามาฮ่าต้องเจอตลอดการแข่งขัน เนื่องจากความเร็วทางตรงไม่เพียงพอที่จะแซงคนอื่นๆ ได้”
ทั้งนี้ ปัญหา “แรงดันลมยางที่ล้อหน้า” พุ่งขึ้นถึงขีดจำกัด ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ กวาร์ตาราโร เจอ ซึ่งเขาเคยเผชิญหน้าสถานการณ์นี้มาแล้วที่ อรากอน ในปี 2020
“ผมเริ่มต้นเกมได้ดี แต่หลังจากรอบที่ 2 เราต้องเจอแรงดันลมยางที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างมาก” กวาร์ตาราโร กล่าว
“โดยพื้นฐานแล้วมันค่อนข้างแปลก ที่ปัญหานี้เกิดขึ้นตั้งแต่รอบที่ 2 และหลังจากนั้น เรซเพซ ก็ตกลงไปอย่างชัดเจน”
“เอาจริงๆ นะ พมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเค้นเต็มที่และหลังจากนั้นทั้ง ยางหลัง และยางหน้า ของผมก็เริ่มเสื่อมลงไป”
“พูดตามตรงว่าผมไม่รู้เลย ผมหวังว้าจะเพิ่มความเร็วได้สักหน่อย แต่ตอนนี้เราไม่สามารถทำได้ดีไปกว่านี้ และนั่นคือปัญหา”