มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ยืดอกรับว่ายังไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก “จุดแข็ง” ของรถแข่ง RC213V ได้ดีเท่ากับทีมเมทอย่าง โปล เอสปาร์กาโร ซึ่งคว้าโพเดี้ยมสนามแรกมาครอง โดยเฉพาะเรื่อง “เบรกหลัง”
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักบิดฮอนด้า คนอื่นๆ เอาชนะ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 6 สมัย นับตั้งแต่ในยุคที่เขาก้าวขึ้นมาแข่งขัน พรีเมียร์คลาส
ทว่าหลังขยับขึ้นนำในโค้งแรก มาร์เกซ ก็โดน เอสปาร์กาโร แซงขึ้นนำและไม่สามารถเอาตำแหน่งคืนได้เลย
ขณะที่ เอสปาร์กาโร ขึ้นนำได้ถึง 17 รอบจาก 22 รอบสนาม หลังจากที่ยางซอฟท์ของเขาเริ่มมีปัญหา ก่อนจะโดน เอเนีย บาสเตียนินี แซงผ่านขึ้นเป็นผู้ชนะ แถมยังโดน แบรด บินเดอร์ ปาดหน้าคว้าอันดับ 2 ไปครองด้วยเช่นกัน
“ตลอดทั้งสุดสัปดาห์ โปล ขี่ได้ดีกว่าผมนิดหน่อย” มาร์เกซ กล่าว
“แนวทางที่เขาใช้รีดเวลาต่อรอบง่ายกว่าผมนิดเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถหยุดในช่วงขาเข้าโค้งได้ดี และเขาใช้เบรกหลังค่อนข้างเยอะ ซึ่งผมเองยังไม่สามารถใช้เบรกหลังได้ดีเท่าเขา เพราะหากทำแบบนั้น ผมจะเสียการควบคุมที่ล้อหลังทันที”
“แต่ยังไงก็ตาม ตั้งแต่ได้ขี่รถคันใหม่เขาทำได้ดีมาก ทั้งในการทดสอบที่ มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ถือเป็นเรื่องดีที่เราจะได้มีข้อมูลอ้างอิงเก็บไว้ เราเพิ่งผ่านสนามแรกของปี ดังนั้น เราต้องพยายามเข้าใจให้ได้ในสิ่งที่เขาทำได้ดีกว่า”
“แต่พูดตามตรงวันนี้ (วันอาทิตย์) เขาขี่ได้ดีมาก” มาร์เกซ กล่าวถึง โปล เอสปาร์กาโร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇
[MotoGP] “ฮอนด้า กลับมาแล้ว! ไม่ใช่แค่กับ มาร์ค แต่กับผมด้วย” : โปล เอสปาร์กาโร
ขณะที่รถแข่ง RC213V มีการพัฒนาครั้งใหญ่ที่แตกต่างจากเดิมอย่างมาก โดยที่ มาร์เกซ ยอมรับว่ายังไม่เข้าใจธรรมชาติของรถแข่งคันใหม่อย่างถ่องแท้
โดยแชมป์โลก 8 สมัย เปิดเผยว่าไม่ได้มีผลมาจากปัจจัยด้านร่างกายของเขา
“การขี่ด้วยระยะทางแข่งขันจริงถือเป็นโจทย์หลัก และผมเองก็ไม่มีปัญหาอะไรด้านสภาพร่างกาย แน่นอนว่าผมรู้สึกเหนื่อย… นักแข่งคนอื่นๆ ก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้รู้สึกปวด ดังนั้น สิ่งนี้มันจึงสำคัญมาก”
“แค่เพียงในวันนี้ มีนักบิด 4 คนที่เร็วกว่าผม ก่อนแข่งผมคิดในแง่ดีว่าการแข่งขันมันจะไม่เร็วขนาดนี้ แต่เอาเข้าจริงๆ มันเป็นเรซที่เร็วมากไๆ เรซเพซ ของทุกคนน่าเหลือเชื่อ และผมก็ไม่ได้มีความเร็วขนาดนั้น”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇