ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า เผยขยับเข้าใกล้ “จุดสูงสุด“ ของรถแข่ง M1 แล้ว แต่ปัญหาใหญ่ของ “ยามาฮ่า” คือ จุดสูงสุดนั้นยังไม่พอที่จะสู้กับคู่แข่ง
มอร์บิเดลลี ต้องเจอความเปลี่ยนแปลงอย่างมากกับการแข่งขันในฤดูกาล 2022 โดยเฉพาะกับการแข่งขันที่ กาตาร์ ซึ่งในปีนี้เขาเปลี่ยนมาเป็นนักบิดทีมโรงงาน พร้อมกับรถแข่งใหม่ที่ต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
แต่เมื่อสะท้อนสถานการณ์ของทีมเมทอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ก็ไม่แตกต่างกัน เมื่อเขามีเวลาสำหรับการแข่งขัน กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ เกือบจะเท่ากับเวลาเดิมในปี 2021
มอร์บิเดลลี จบการแข่งขันในปีนี้ ด้วยเวลาช้ากว่าปีที่แล้วเพียง 0.126 วินาที ทว่าผู้ชนะอย่าง เอเนีย บาสเตียนินี กลับทำเวลาเร็วกว่าของการชนะในปีที่ผ่านมาถึง 10 วินาที
หลังหล่นจากอันดับ 12 ไปถึงอันดับ 17 ในช่วงแรก มอร์บิเดลลี ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 11 ได้ในรอบที่ 12 จากการพลาดล้มของนักบิดหลายคน
เช่นเดียวกับนักบิดยามาฮ่าที่ใช้รถแข่งสเป็คโรงงานอย่าง กวาร์ตาราโร รวมถึง อันเดรีย โดวิซิโอโซ ด้วย ซึ่งต่างก็ต้องเจอปัญหาแรงดันลมยางสูงผิดปกติ แถม M1 ยังมีท็อปสปีดเป็นรองคู่แจ่งอย่างมาก
มอร์บิเดลลี กล่าวว่า “มันเป็นเรซที่ยาก เราเจอปัญหาตลอดทั้งสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะการยึดเกาะที่ล้อหลัง นั่นทำให้เราไม่สามารถแสดงศักยภาพที่ดีได้”
“ในการแข่งขันผมออกสตาร์ทได้แย่มาก ผมทำได้ไม่ดีพอที่จะเลือกไลน์ที่ถูกต้องในรอบแรก ทำให้เสียเวลาไปเยอะมาก แต่เมื่อผมเจอเรซเพซของตัวเอง มันก็ไม่ได้แย่จนเกินไป”
“ผมขยับเข้าใกล้ขีดสุดของตัวเองและรถแข่ง มันรู้สึกดีมาก”
“แต่ปัญหาคือขีดสุดของเรา กลับยังไม่ดีพอที่จะขึ้นไปคว้าอันดับ 1 ในสุดสัปดาห์นั้น”
“แต่มองในแง่ดี มันยังเป็นแค่เรซแรก เรารู้ดีว่า กาตาร์ เป็นสนามที่มีลักษณะเฉพาะตัวสูง ดังนั้นเราจะเดินหน้าต่อไป เราจะล้วงลึกในปัญหา และแก้ไขมันให้ได้อย่างแน่นอน”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇