มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลก 8 สมัยจาก เรปโซล ฮอนด้า ยอมรับว่า “เขาจำแทบไม่ได้” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการล้มรุนแรงที่ อินโดนีเซีย ก่อนส่งผล “มองเห็นภาพซ้อน” อีกครั้ง จนพลาดลงบิดโมโตจีพี 2 สนามติดต่อกัน
มาเกซ ถูกเหวี่ยงลอยเคว้งออกจากรถแข่ง RC213V ในรอบ วอร์มอัพของศึก อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ก่อนจะกระแทกลงที่พื้นอย่างรุนแรง กระทบที่บริเวณศีรษะ ส่งผลให้เขาเกิดอาการมองเห็นภาพซ้อนอีกครั้ง และพลาดลงแข่งขันในสนามดังกล่าว
นักบิดสแปนิชมีอาการดังกล่าวมีแล้วในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (ซ้ำกับเมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อครั้งบิดในรุ่น โมโตทู) จากการฝึกซ้อมแบบออฟโร้ด จนทำให้พลาดลงบิด 2 สนามสุดท้ายของปี 2021 และกินเวลามาถึงช่วง พรีซีซั่น เทสต์
อย่างไรก็ดี มาร์เกซ ยังกลับมาทันร่วมทีมในการทดสอบระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะมาเจอปัญหานี้อีกครั้งที่ อินโดนีเซีย แลัส่งผลให้เขาพลาดลงแข่งทั้งที่ อินโดนีเซีย และ อาร์เจนติน่า เพื่อพักรักษาตัว
ล่าสุด มาร์เกซ ผ่านความฟิตจากแฟนส่วนตัว และแพทย์ประจำโมโตจีพี ให้กลับมาลงแข่งขันได้อีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ที่ ออสติน
มาร์เกซ ยอมรับในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า “บอกตามตรง ผมจำอะไรไม่ค่อยได้จากการล้มที่ มันดาลิกา”
“ผมมานึกอะไรออกมาขึ้นจากการดูวีดีโอ จากนั้นถึงเริ่มจำมันได้บ้าง”
“แต่พูดตามตรงว่า อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ ถือเป็นกรังด์ปรีซ์ที่ล้มเหลวที่สุดในอาชีพของผม เพราะผมล้มบ่อยมาก และมีการล้มบางครั้งที่ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“โดยเฉพาะการล้มในรอบ วอร์มอัพ ผมเพิ่งใส่ยางหลังใหม่ลงไปแท้ๆ แต่กลับมีอาการไฮ-ไซด์”
“แต่ยังไงก็ตาม… มันผ่านมาแล้ว ตอนนี้คือเวลาที่ต้องสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อกลับมาโฟกัสการทำงานให้มีความคืบหน้า”
“แน่นอนว่ามันยากมากๆ ในการแข่งขันที่ อินโดนีเซีย แต่มันยากกว่าที่หลังจากนั้นแค่ 2 สัปดาห์ คุณมีการแข่งขันรออยู่ แต่ก็โชคดีที่ผมอยู่ที่นี่ตอนนี้”
“ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว”
วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇