ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ยอดนักขับโมนาโกจาก เฟอร์รารี่ ออกนำม้วนเดียวจบคว้าชัย ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ด้าน มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น รถพัง ขณะ จอร์จ รัสเซลล์ ซิวโพเดี้ยมแรกกับ เมอร์เซเดส ด้าน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยเปิดบิลคว้าแต้มแรกให้ วิลเลียมส์ ได้สำเร็จ จากเรซเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ศึก ฟอร์มูล่าวัน 2022 สนาม 3 ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ภายใต้เลย์เอาท์ใหม่ของ อัลเบิร์ต พาร์ค เซอร์กิต ประเทศออสเตรเลีย ชิงชัยทั้งสิ้น 58 รอบสนาม
โพลในเรซนี้เป็นของ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับโมนาโกจาก เฟอร์รารี่ ขนาบข้างด้วย มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น แชมป์โลกจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง ด้าน อเล็กซานเดอร์ อัลบอน นักขับไทยจาก วิลเลียมส์ ได้ออกตัวจากกริดสุดท้ายหลังโดนดิสควอลิฟาย
แต่เพียง 3 รอบ เซฟตี้คาร์ ก็ต้องออกมาวิ่งนำเพื่อเคลียร์แทร็กแล้ว เมื่อรถแข่งของ คาร์ลอส ซายน์ซ จาก เฟอร์รารี่ ที่ออกสตาร์ทไม่ดีพลาดหมุนลงไปที่บ่อกรวด และรีไทร์จากเรซทันที
ขณะที่ผู้นำในช่วงแรกเป็นของทีมเมทอย่าง ชาร์ลส์ เลอแคลร์ ตามด้วย มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น แชมป์โลจาก เรดบูลล์ เรซซิ่ง และ ลูอิส แฮมิลตัน จาก เมอร์เซเดส ที่ทะยานขึ้นมาจากกริดที่ 5
รอบที่ 10 แฮมิลตัน โดน เปเรซ ขยับแซงขึ้นมารั้งอันดับ 3 จากความเร็วที่เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
รอบที่ 18 เลอแคลร์ ทิ้งห่าง เวอร์สแท็พเพ่น ออกไปถึง 8.6 วินาที ขณะ อเล็กซ์ อัลบอน ไต่ขึ้นมาถึงอันดับ 14
จากการเข้าพิตแรกของกลุ่มนำ ทำให้อันดับมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เลอแคลร์ ยังนำ ตามด้วย เวอร์สแท็พเพ่น และ จอร์จ รัสส์เซลล์ จาก เมอร์เซเดส ที่ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3 ขณะ แฮมิลตัน หล่นไปถึงอันดับ 6
รอบที่ 24 เซบาสเตียน เวทเทล นักขับเยอรมันจาก แอสตัน มาร์ติน ต้องออกจากการแข่งขันไปอีกคัน หลังผ่านชิเคนโค้ง 4-5 หมุนฟาดกำแพงเต็มๆ ในรอบนี้ เซฟตี้คาร์ ออกมาทำหน้าที่อีกครั้ง ด้าน อัลบอน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 10
เกมกลับมารีสตาร์ทกันอีกครั้งในรอบที่ 28 เลอแคลร์ ยังออกตัวได้ดีนำฝูงเหนือ เวอร์สแท็พเพ่น ได้เหมือนเดิม
หลังจาก DRS อนุญาตให้ใช้ได้ในรอบที่ 30 เปเรซ ก็ขยับแซง เฟอร์นันโด อลอนโซ จาก อัลพีน ขึ้นมารั้งอันดับ 4 ได้ทันที และในรอบถัดมาก็โดน แฮมิลตัน แซงขึ้นมาอีกคัน
จากนั้น เปเรซ ไล่แซง รัสเซลล์ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้สำเร็จ ทว่าเพียงไม่กี่รอบถัดมา เรดบูลล์ ต้องเหลือรถแข่งในสนามแค่คันเดียว เมื่อ เวอร์สแท็พเพ่น ต้องจอดข้างแทร็กหลังรถแข่งมีปัญหา
ขณะที่ อัลบอน ที่ยังไม่ได้เข้าพิตยังคงรั้งอันดับ 7 ในเรซไว้ได้ ขณะที่ เลอแคลร์ นำโด่งออกไปกว่า 20 วินาทีจนถึงช่วง 4 รอบสุดท้าย
จบการแข่งขันด้วยชัยชนะแบบนำโด่งของ เลอแคลร์ ตามด้วย เปเรซ และ รัสเซลล์ ในอันดับ 1-2-3 ด้าน แฮมิลตัน จังหวะกาารเข้าพิตโดนเซฟฟตี้คาร์เล่นงาน ทำได้ดีที่สุดเพียงอันดับ 4
ขณะที่ อัลบอน เข้าพิตรอบสุดท้าย ร่วงจากอันดับ 7 แต่ยังเพียงพอที่จะเข้าป้ายในอันดับ 10 คว้าแต้มให้ วิลเลียมส์ ได้สำเร็จ
ผลการแข่งขัน 👇👇👇
| Cla | Driver | Chassis | Laps | Gap | Interval |
|---|---|---|---|---|---|
| 1 | Charles Leclerc | Ferrari | 58 | ||
| 2 | Sergio Perez | Red Bull | 58 | 20.524 | 20.524 |
| 3 | George Russell | Mercedes | 58 | 25.593 | 5.069 |
| 4 | Lewis Hamilton | Mercedes | 58 | 28.543 | 2.950 |
| 5 | Lando Norris | McLaren | 58 | 53.303 | 24.760 |
| 6 | Daniel Ricciardo | McLaren | 58 | 53.737 | 0.434 |
| 7 | Esteban Ocon | Alpine | 58 | 1’01.683 | 7.946 |
| 8 | Valtteri Bottas | Alfa Romeo | 58 | 1’08.439 | 6.756 |
| 9 | Pierre Gasly | AlphaTauri | 58 | 1’16.221 | 7.782 |
| 10 | Alex Albon | Williams | 58 | 1’19.382 | 3.161 |
| 11 | Zhou Guanyu | Alfa Romeo | 58 | 1’21.695 | 2.313 |
| 12 | Lance Stroll | Aston Martin | 58 | 1’28.598 | 6.903 |
| 13 | Mick Schumacher | Haas | 57 | ||
| 14 | Kevin Magnussen | Haas | 57 | ||
| 15 | Yuki Tsunoda | AlphaTauri | 57 | ||
| 16 | Nicholas Latifi | Williams | 57 | ||
| 17 | Fernando Alonso | Alpine | 57 | ||
| Max Verstappen | Red Bull | 38 | |||
| Sebastian Vettel | Aston Martin | 22 | |||
| Carlos Sainz Jr. | Ferrari | 1 |