“ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” กลับมาสู่การแข่งขันอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ โดนสนามที่ 3 ดวลความเร็วกัน 2 เรซ ภายใต้ศึก OR BRIC 2022 สนาม 2 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
“ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” คือหนึ่งในการแข่งขันภายใต้โครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะดรีม” ที่เป้าหมายคือการพัฒนานักแข่งไทยสู่เวทีระดับโลก และเป้าสูงสุดคือการส่งนักแข่งไทยลงทำการแข่งขันในโมโต จีพีภายในปี 2025
“ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” จึงไม่ใช่การแข่งขันเพียงเพื่อชัยชนะเท่านั้น แต่เป็นรายการแข่งขันที่พัฒนานักแข่งเยาวชนของไทยให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น จาก 5 ประเด็นสำคัญที่จะเห็นได้จาก “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” การแข่งขันที่มากกว่าการแข่งขัน
- ตัวแข่ง : ตัวแข่งเรซแมนชีนแท้ๆ ที่นำเข้ามาเพื่อการแข่งขัน “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” โดยเฉพาะ คือ Honda NSF250R เทียบเท่าตัวแข่งรายการชิงแชมป์โลกรุ่นโมโต 3 นักแข่งได้เริ่มต้นและสร้างความคุ้นเคยกับรถแข่งแท้ๆ เพื่อพัฒนาทักษะการขับขี่และการรู้จักให้ข้อมูลของรถแก่ทีมแม็คคานิกซ์
- การแข่งขัน : ระยะทางของการแข่งขัน “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต กำหนดเอาไว้ที่ 15 รอบ ซึ่งเป็นระยะทางที่มากที่สุดของการแข่งขันรายการ OR BRIC เนื่องจากระยะทางดังกล่าวเป็นมาตรฐานของการแข่งขันในรายการระดับโลก นักแข่งเยาวชนของไทยได้เริ่มฝึกให้คุ้นเคยทั้งร่างกาย และการยืนระยะในการแข่งขัน
- ทีมโค้ช : ประสบการณ์จากการแข่งขันในรายการต่างๆ ของทีมโค้ช จะสามารถคัดเลือกนักแข่ง พัฒนาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง ตรงจุดกับนักแข่งแต่ละคน รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬาที่นำมาปรับใช้ควบคู่กัน ทำให้นักแข่งมีความพร้อมมากขึ้นที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะในการแข่งขัน
- ประสบการณ์ : ความหลากหลายของคู่แข่งในสนามโดยที่ “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” เปิดโอกาสให้นักแข่งดาวรุ่งที่มีศักยภาพจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียเข้าร่วมแข่งขันด้วย ทำให้นักแข่งของไทยได้ต่อสู้ในสนามกับนักแข่งที่มีสไตล์สที่แตกต่าง พัฒนาในรูปแบบที่แตกต่างกัน เป็นการเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ในสนามและได้ประสบการณ์ทันทีในการแข่งขันรายการนี้
- โอกาส : โอกาสในการพัฒนาและก้าวหน้าของนักแข่งใน “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ” เมื่อฮอนด้านั้นมีบันไดในการผลักดันรองรับพร้อมอยู่แล้วในรายการระดับประเทศ หรือระดับโลกต่อไป ทั้งการแข่งขันในยุโรปหรือรายการระดับโลกอย่างโมโต จีพี ซึ่งทำให้การพัฒนานักแข่งไทยคืออีกบทบาทที่ชัดเจนไม่น้อยกว่าการแข่งขันในสนามของ “ฮอนด้า ไทยแลนด์ ทาเล้นท์ คัพ”