มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น แชมป์โลก 2 สมัยชาวดัตช์จาก เรดบูล เรซซิ่ง ออกนำม้วนเดียวจบผงาดคว้าชัยชนะสนามแรกของปีในศึก ฟอร์มูล่าวัน รายการ บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ควง เซอร์จิโอ เปเรซ เข้าป้ายวันทู ขณะจอมเก๋า เฟร์นันโด อลอนโซ จาก แอสตัน มาร์ติน แผลงฤทธิ์คว้าโพเดี้ยมกับทีมใหม่ ด้าน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยจาก วิลเลียมส์ คว้าแต้มแรกหลังจบเรซในอันดับ 10 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การแข่งขัน ฟอร์มูล่าวัน 2023 เปิดฉากดวลความเร็วสนามแรกอย่างเป็นทางการเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ในรายการ บาห์เรนก์ กรังด์ปรีซ์ ชิงชัยท้ังสิ้น 57 รอบสนาม ที่ บาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
ออกสตาร์ทเรซด้วยการขยับขึ้นนำอย่างรวดเร็วของ เวอร์สแท็พเพ่น ตามด้วย เลอแคลร์ ในอันดับ 2 ส่วน เปเรซ ร่วงลงไปอยู่ในอันดับ 3 ตามด้วย คาร์ลอส ซายน์ซ ในอันดับ 4 ขณะที่ ลูอิส แฮมิลตัน เบียดขึ้นมาถึงอันดับ 5
นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่น่าสนใจ โดย แลนซ์ สโตรลล์ สะกิดท้ายทีมเมทอย่าง เฟร์นันโด อลอนโซ เสียอาการเล็กน้อยทำให้ร่วงลงไปอยู่อันดับ 6 ด้าน อเล็กซ์ อัลบอน นักขับไทยจาก วิลเลียมส์ ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 12 อย่างรวดเร็วในรอบแรก จากนั้นไล่แซง แลนโด้ นอร์ริส ขึ้นมารั้งอันดับ 11 ในรอบที่ 4
รอบที่ 11 นอร์ริส เข้าพิตแต่กลับมีปัญหาจนเสียเวลาไปกว่า 5 วินาที ก่อนจะออกมาด้วยยางฮาร์ด ส่วน อัลบอน ขยับตัวเข้าพิตครั้งแรกในรอบ 12 และยังคงออกมากับยางซอฟท์ เช่นเดียวกับสตินท์แรก
ขณะที่ แฮมิลตัน ตามเข้าพิตในรอบที่ 13 โดยในรอบนี้ รัสเซลล์ และ อลอนโซ ไล่บี้ชิงอันดับ 5 กันอย่างดุเดือด ก่อนที่จอมเก๋าสแปนิชจะแซงผ่านไปได้ หลังดวลกันต่อเนื่องถึง 5 โค้ง
รอบที่ 14 เฟอร์รารี่ ทำ “ดับเบิ้ลสแต็ก” เข้าพิตพร้อมกันทั้ง เลอแคลร์ และ ซายน์ซ ส่งผลให้เรดบูล ทั้งสองคันขยับขึ้นนำ แต่จากนั้น เวอร์สแท็พเพ่น ก็เข้าพิตครั้งแรก และออกไปกับยางซอฟท์เช่นเคย
รอบที่ 16 อัลบอน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 10 จากผลของยางซอฟท์ที่มีกริ๊ปที่ดีกว่า ส่วนผู้นำเป็นของ เวอร์สแท็พเพ่น ตามด้วย เลอแคลร์, เปเรซ และ ซายน์ซ รวมถึง แฮมิลตัน ตามลำดับ
โดยก่อนหน้านั้น ออสก้า ปิอัสตรี รุกกี้ชาวออสเตรเลียนต้องออกจากการแข่งขัน หลังจากปัญหาด้านเทคนิคของรถแข่งขณะเข้าพิต
รอบที่ 26 เปเรซ ในยางซอฟท์ขยับแซง เลอแคลร์ ที่ใส่ยางฮาร์ดขึ้นมารั้งอันดับ 2 ได้สำเร็จ จากนั้นรอบที่ 27 อัลบอน เข้าพิตพร้อมกับ สึโนดะ ก่อนจะออกมาในยางฮาร์ดทั้งคู่
รอบที่ 31 แฮมิลตัน ตัดสินใจเข้าพิตเพื่อทำอันเดอร์คัตใส่กลุ่มหน้า โดยหลังจากนั้น ซายน์ซ ตามเข้าพิตอีกครั้งในรอบถัดมา รวมถึง รัสเซลล์ ด้วยเช่นกัน และขยับออกมาบี้กับ สโตรลล์ อย่างดุเดือด
รอบที่ 34 อัลบอน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 10 ได้อีกครั้ง แต่ก็โดน ปิแอร์ แกสลีย์ จาก อัลพีน และ สึโนดะ ไล่ตามอย่างหนักในลักษณ์ DRS Train โดยในรอบที่ 35 เปเรซ กลับเข้าพิตและยังคงออกมานำหน้า เลอแคลร์ ในอันดับ 2 ขณะที่ แฮมิลตัน ไต่ขึ้นมาอยู่ในท็อป 5 อีกครั้ง จากการเข้าพิตของ อลอนโซ
รอบที่ 37 เวอร์สแท็พเพ่น เข้าพิตครั้งที่ 2 และออกมากับยางฮาร์ดใหม่พร้อมกับรั้งจ่าฝูงได้สำเร็จ ขณะที่ อลอนโซ ที่ออกไปกับยางใหม่ไล่จ่อท้ายกดดัน แฮมิลตัน อย่างหนักเพื่อชิงอันดับ 5 ก่อนจะแซงได้ในรอบที่ 38
จุดเปลี่ยนสำคัญของเรซเกิดขึ้นอีกครั้งในรอบที่ 41 เมื่อรถแข่งของ เลอแคลร์ จอดนิ่งสนิทที่เซ็คเตอร์ 3 จากปัญหาด้านเพาเวอร์ยูนิต ทำให้มี VSC ในรอบนั้น และนักขับเฟอร์รารี่ก็ต้องออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย
รอบที่ 46 อลอนโซ ไล่บดแซง ซายน์ซ ขึ้นมารั้งอันดับ 3 มีพื้นที่บนโพเดี้ยมในมือ
จบการแข่งขัน 57 รอบสนาม เวอร์สแท็พเพ่น ผงาดคว้าชัยชนะแบบม้วนเดียวจบประเดิมสนามแรกของฤดูกาล 2023 ทิ้งห่าง เปเรซ ทีมเมทมากกว่า 10 วินาที ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อลอนโซ ที่สร้างผลงานสุดร้อนแรงในเรซนี้
อันดับ 4 เป็นของ ซายน์ซ ตามด้วย แฮมิลตัน, สโตรลล์ และ รัสเซลล์ ขณะที่ อัลบอน ที่ออกตัวจากกริดที่ 15 ไต่ขึ้นมาเข้าป้ายอันดับ 10 คว้าแต้มแรกประเดิมฤดูกาล 2023 ได้อย่างยอดเยี่ยม
ผลการแข่งขัน บาห์เรน กรังด์ปรีซ์
Cla | # | Driver | Chassis | Engine | Laps | Time | Gap | Interval | Pits | Points |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 1 | Max Verstappen | Red Bull | Red Bull | 57 | – | 2 | 25 | ||
2 | 11 | Sergio Perez | Red Bull | Red Bull | 57 | 11.987 | 11.987 | 11.987 | 2 | 18 |
3 | 14 | Fernando Alonso | Aston Martin | Mercedes | 57 | 38.637 | 38.637 | 26.650 | 2 | 15 |
4 | 55 | Carlos Sainz | Ferrari | Ferrari | 57 | 48.052 | 48.052 | 9.415 | 2 | 12 |
5 | 44 | Lewis Hamilton | Mercedes | Mercedes | 57 | 50.977 | 50.977 | 2.925 | 2 | 10 |
6 | 18 | Lance Stroll | Aston Martin | Mercedes | 57 | 54.502 | 54.502 | 3.525 | 2 | 8 |
7 | 63 | George Russell | Mercedes | Mercedes | 57 | 55.873 | 55.873 | 1.371 | 2 | 6 |
8 | 77 | Valtteri Bottas | Alfa Romeo | Ferrari | 57 | 1’12.647 | 1’12.647 | 16.774 | 2 | 4 |
9 | 10 | Pierre Gasly | Alpine | Renault | 57 | 1’13.753 | 1’13.753 | 1.106 | 3 | 2 |
10 | 23 | Alex Albon | Williams | Mercedes | 57 | 1’29.774 | 1’29.774 | 16.021 | 3 | 1 |
11 | 22 | Yuki Tsunoda | AlphaTauri | Red Bull | 57 | 1’30.870 | 1’30.870 | 1.096 | 3 | |
12 | 2 | Logan Sargeant | Williams | Mercedes | 56 | 1 lap | 3 | |||
13 | 20 | Kevin Magnussen | Haas | Ferrari | 56 | 1 lap | 3 | |||
14 | 21 | Nyck de Vries | AlphaTauri | Red Bull | 56 | 1 lap | 2 | |||
15 | 27 | Nico Hulkenberg | Haas | Ferrari | 56 | 1 lap | 3 | |||
16 | 24 | Zhou Guanyu | Alfa Romeo | Ferrari | 56 | 1 lap | 3 | |||
17 | 4 | Lando Norris | McLaren | Mercedes | 55 | 2 laps | 6 | |||
dnf | 31 | Esteban Ocon | Alpine | Renault | 41 | 16 laps | 4 | |||
dnf | 16 | Charles Leclerc | Ferrari | Ferrari | 39 | 18 laps | 2 | |||
dnf | 81 | Oscar Piastri | McLaren | Mercedes | 13 | 44 laps | 1 |