ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบเบอร์หนึ่งของไทย “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ 2023” แถลงข่าวเตรียมเปิดฤดูกาล ด้วยทัพนักบิดกว่า 200 คน ทีมแข่งกว่า 120 ทีม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ปรับมาตรฐานการแข่งขันสู่เรซแถวหน้าเอเชีย เปิดปฏิทินการแข่งขัน ด้วยกฎกติกาเดียวกับ “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง” ชูมาตรฐานการจัดมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่เข้มข้นและเป็นสากลยิ่งขึ้น ประเดิมสนามแรก 7-9 เม.ย.นี้
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ประกาศความพร้อมการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ ประจำปี 2566” ศึกสองล้อทางตรงที่ได้รับความนิยมและยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยงานแถลงข่าวจัดขึ้น วันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่สโมสรราชพฤกษ์ กรุงเทพฯ
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เปิดเผยว่า “โออาร์ บีอาร์ไอซี ซูเปอร์ไบค์ พัฒนานักแข่งไทยในทุกมิติ เป็นอีเว้นต์ประจำปีที่ได้เห็นถึงความมุ่งมั่น ศักยภาพ การห้ำหั่นกันของทั้งทีมยักษ์ใหญ่ระดับโรงงานและทีมอิสระที่ลงไล่ล่าความสำเร็จอย่างสุดความสามารถ ซึ่งสนามช้างฯ เป็นระบบนิเวศน์ทางมอเตอร์สปอร์ตที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยการแข่งขันที่ได้มาตรฐาน FIM ระบบการจัดการแข่งขันทุกส่วนใช้มาตรฐานสากล เรซ ไดเรกเตอร์, มาร์แชล, กรรมการ ฯลฯ และยังใช้ประสบการณ์จากการจัดโมโตจีพีมาพัฒนาให้ดีขึ้นในทุกๆปี เพื่อให้นักแข่งก้าวสู่ความเป็นเลิศในทุกด้าน ให้มีความพร้อมเต็มที่ในการแข่งขัน และเทียบชั้นกับนักแข่งระดับโลก”
“รายการแข่งของเรา สนุกสนานเข้มข้นไม่แพ้ใคร แต่ละปีมีนักแข่งต่างชาติลงทำการแข่งขันเพิ่มขึ้นนอกจากนี้ในปีนี้มีสิ่งเปลี่ยนแปลงที่ถือเป็นก้าวสำคัญคือในรุ่น 1000 cc. เราได้ปรับกติกาเป็นกติกาเดียวกันกับการแข่งขันเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง ในรุ่นที่สำคัญๆ เพื่อพัฒนาต่อยอดของนักแข่ง และเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งทวีป รวมทั้งสร้างปรากฏการ์ใหม่ในการปรับผังแพทดอร์ก ให้แฟนความเร็วที่เข้าชมที่สนาม สามารถเข้าชมการทำงานของนักแข่งและทีมแข่งอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก”
ทั้งนี้ ศึก OR BRIC Superbike Championship 2023 จะแข่งขันทั้งสิ้น 4 สนาม 5 เรซ ในฤดูกาล 2023 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ สนามที่ 1 วันที่ 7 – 9 เมษายน, สนามที่ 2 วันที่ 2 – 4 มิถุนายน, สนามที่ 3 วันที่ 28 – 30 กรกฎาคม และ สนามที่ 4 วันที่ 21 – 24 กันยายน 2566 (แข่งขัน 2 เรซ)
ดวลความเร็วทั้งสิ้น 5 คลาส นำโดยคลาสสูงสุดของประเทศไทย ได้แก่ Super Bike 1000cc. , Super Stock 1000cc. , Super Sport 600cc. , Super Sport 400cc. และ Sport Production 400cc. และแยกนักแข่งรุ่น Pro ใน 3 คลาสหลักออกมาเพื่อความดุเดือดยิ่งขึ้น ได้แก่ Super Bike 1000cc. (SB1 Pro), Super Sport 600cc. (SS1 Pro), Super Sport 400cc. (SS1 Pro) เพื่อให้นักแข่งหน้าใหม่มีโอกาสได้ยืนบนโพเดี้ยมมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีซัพพอร์ตเรซของค่ายยักษ์ใหญ่ที่เพิ่มรุ่นการแข่งขันกันอย่างคึกคัก ได้แก่ Honda Thailand Talent Cup, Honda CBR1000RR-R Fireblade Trophy และ Yamaha R Series Cup, Yamaha Moto Challenge, Yamaha R3 bLU cRU Thailand
แฟนความเร็ว ร่วมชมและเชียร์นักบิดไทย สามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้แบบชิดติดขอบสนามได้แล้ววันนี้ หรือติดตามการถ่ายทอดผ่านทางช่อง True Visions และพิเศษสำหรับชาว AEC สามารถติดตามได้ทางช่อง MVTV และระบบ Online Live Streaming ทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chang Circuit Buriram และช่องยูทูปของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊คแฟนเพจ Chang Circuit Buriram หรือ BRIC Superbike