“มอนสเตอร์ ยามาฮ่า” ออกโรงแสดงความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหา “การรีดความเร็วในรอบควอลิฟาย” เชื่อจะนำไปสู่ผลงานที่ดีในศึก โมโตจีพี สนาม 2 ที่ อาร์เจนติน่า ขณะ “เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาโร หวังยกระดับในสนามสุดหินอย่าง เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ สุดสัปดาห์นี้
ศึก โมโตจีพี 2023 มีคิวเข้าสู่การแข่งขันสนาม 2 ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 2 เมษายนนี้ ที่ เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ประเทศอาร์เจนติน่า ในรายการ กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า
หลังผ่านสนามแรก ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัยเจ้าของหมายเลข 20 เก็บมาได้ 8 แต้ม จากการคว้าอันดับ 8 ในศึก โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ ขณะที่ทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง ฟรานโก มอร์บิเดลลี เจ้าของหมายเลข 21 เก็บมาได้ 1 แต้มจากการจบเรซในอันดับ 14
โดยหลังจบการแข่งขันที่ โปรตุเกส, มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ก็เดินทางข้ามทวีปต่อมาที่ อาร์เจนติน่า ทันที เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การแข่งขัน กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะถือเป็นงานที่ท้าทายสำหรับพวกเขาในการแก้ไขปัญหารถแข่ง
มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีม มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี เปิดเผยว่า
“เราเดินทางไปยังสนามแข่ง เทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ทันทีหลังจบการแข่งขันที่ โปรตุเกส มันเป็นการเดินทางที่ยาวนานหลังผ่านสนามแรก แต่เราตื่นเต้นที่ได้มาที่นี่ และจะได้ลงแข่งอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ผลงานของสนามที่แล้วแสดงให้เห็นว่าเรามีงาต้องทำเยอะมาก ดังนั้น นี่จะเป็นสุดสัปดาห์ที่หนักสุดๆ สำหรับเรา”
“ใน ปอร์ติเมา เราสามารถเตรียมงานสำหรับการเซ็ตติ้งเพื่อ สปรินต์ และการแข่งขันได้ระหว่างการทดสอบ ส่วนที่นี่จะต้องยุ่งยากแน่นอนสำหรับรูปแบบใหม่ เราต้องใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกเซสชั่น โดยเฉพาะ FP2 ที่น่าจะใกล้เคียงกับ สปรินต์ และ เรซ มากที่สุดในแง่ของเงื่อนไข”
“นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกยาง นอกจากนี้ FP2 ยังสำคัญต่อการทำเวลาเข้าสู่ Q2 ซึ่งเราต้องเน้นอย่างมากในการปรับปรุงศักยภาพของเราในการควอลิฟาย เนื่องจากผลงานในรอบ สปรินต์ และ เรซ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการออกสตาร์ท”
กวาร์ตาราโร กล่าวว่า “เมื่อย้อนดูตำแหน่งของผมในรอบแรกที่ โปรตุเกส (ร่วงลงไปอยู่อันดับ 15) ถือว่าผลงานของผมค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะไต่ขึ้นมาจบในอันดับ 8 และยังคงเก็บแต้มได้ เมื่อไม่มีคะแนนในรอบ สปรินต์ มันทำให้เราตามหลังในตารางคะแนนสะสมออกมาเล็กน้อยแล้ว แต่เราจะก็สามารถที่จะไต่ขึ้นไปได้ในสุดสัปดาห์นี้ เทอร์มาส ไม่ใช่ สนามที่ดีที่สุดสำหรับผม แต่ผมคิดว่าเราจะทำได้ดี เรารู้ว่ากับสนามแห่งนี้เราไม่มีการยึดเกาะที่ดีนัก ดังนั้นเราจะต้องแก้ไขจุดนั้น”
ด้านทีมเมทอย่าง มอร์บิเดลลี เปิดเผยว่า “ข้อดีของการเปิดฤดูกาลแบบ 2 สนามติดต่อกัน คือเรามีโอกาสในการยกระดับในสนามถัดไปได้ทันที เหตุกรณ์ยางแตกเมื่อปีที่แล้วใน อาร์เจนตินา กรังด์ปรีซ์ ทำให้การแข่งขันของผมจบลงก่อนกำหนด เป็นเรื่องดีที่ปีนี้เรามี สปรินต์ และ เรซ ดังนั้นผมสามารถชดเชยด้วยการแข่งขัน 2 ครั้งในปีนี้ เรากำลังค้นหน้าบางอย่างเพื่อปรับปรุง และยกระดับความเร็วของเรา”
สำหรับศึก กรังด์ปรีซ์ ออฟ อาร์เจนติน่า จะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อม 2 ครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 31 มีนาคมนี้ ก่อนจะควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 1 เมษายนนี้ และดวลความเร็วรอบสปรินต์ในคืนเดียวกัน เวลา 01.00 น. จากนั้นจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน เวลา 00.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)