คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ทีมบอส เรดบูล เรซซิ่ง ทีมแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า “กังวล” กับการอัพเกรดครั้งหน้าของ เมอร์เซเดส และ เฟอร์รารี่ หากทีมคู่แข่งทั้งคู่ใช้ B-Spec ซึ่งอาจลดช่องว่างในกลุ่มหน้าของ ฟอร์มูล่าวัน
เรดบูล ครองความยิ่งใหญ่ใน ฟอร์มูล่าวัน 2023 ในช่วง 5 สนามแรก ด้วยการคว้าชัยชนะแบบ วันทู มาครองได้ทั้ง 5 เรซ จากผลงานของ มักซ์ เวอร์สแท็พเพ่น และ เซอร์จิโอ เปเรซ
ขณะที่ เรดบูล อยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง คู่แข่งคนสำคัญอย่าง เมอร์เซเดส และ เฟอร์รารี่ กลับฟอร์มถอยหลังอย่างชัดเจนหากเทียบกับปีที่ผ่านมา
แอสตัน มาร์ติน กลับกลายเป็นทีมที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 หลังผ่าน 5 สนามแรกของปี โดย เฟร์นันโด อลอนโซ แชมป์โลก 2 สมัย ขึ้นโพเดี้ยมไปแล้วถึง 4 ครั้ง
ปัญหาหนึ่งที่ เรดบูล ต้องเผชิญในฤดูกาลนี้คือ พวกเขาถูกจำกัดเวลาในการพัฒนาน้อยลงอย่างมาก เนื่องจากการละเมิดกฎทางการเงินของ ฟอร์มูล่าวัน ในปี 2021
โดยเฉพาะการที่ เมอร์เซเดส กำลังวางแผนที่จะอัพเกรดครั้งใหญ่สำหรับการแข่งขัน เอมิเลีย-โรมันญ่า กรังด์ปรีซ์ ที่ อิโมล่า ซึ่งจะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ แม้ว่าทั้ง ลูอิส แฮมิลตัน และ จอร์จ รัสส์เซลล์ จะมองข้ามการอัพเกรดครั้งนี้ก็ตาม
“สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว หาก เมอร์เซเดส และ เฟอร์รารี่ นำรถ B-Spec มาใช้”
“ผมไม่รู้นะ… มันยังคงเป็นฤดูกาลที่ยาวนาน และ เมอร์เซเดส ก็มีเวลาพัฒนาอีกเยอะมากสำหรับพวกเขา”
“มาดูกัน… เพราะผมได้ยินมาว่าการอัพเกรดครั้งใหญ่ของ เมอร์เซเดส และ เฟอร์รารี่ กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้”
“คุณก็รู้ว่า หากพวกเขามีรถสเป็คที่ 2 หลังจากนั้น สิ่งต่างๆ ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน (สถานการณ์ในสนาม)”
อย่างไรก็ดี ฮอร์เนอร์กล่าวยกย่องทำของเขาว่า “ทีมของเราทำงานกันมีประสิทธิภาพมาก ท่ามกลางข้อจำกัดด้านงบประมาณ”
“แน่นอนว่าเรามีข้อจำกัดด้านเครื่องมือการพัฒนาในปีนี้ แต่ผมคิดว่าทีมกำลังทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ และแสดงผลลัพธ์ออกมาอย่างชัดเจน”
“พวกเขา (เรดบูล) กำลังใช้เวลาที่เรามีอย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ”