“เอลดิอาโบล” ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลก 1 สมัยจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า โชว์ฟอร์มดุดันไล่แซงจากท้ายแถว 15 คันทะยานถึงอันดับ 7 ก่อนโชคร้ายปะทะท้ายเรซรถแข่งเสียหาย จากเกมสุดพลิกผันที่ ซิลเวอร์สโตน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะผู้อำนวยการทีมชี้ส่งสัญญาณบวก ตั้งเป้ากอบกู้สถานการณ์สนามหน้าที่ ออสเตรีย
ศึก โมโตจีพี 2023 สนาม 9 รายการ บริติช กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ ซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต สหราชอาณาจักร ชิงชัยทั้งสิ้น 20 รอบสนาม
บริติช กรังด์ปรีซ์ เป็นหนึ่งในเรซที่ท้าทายความสามารถของ มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี ทีม โดย ฟรานโก้ มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 21 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 11 ส่วนทีมเมทชาวฝรั่งเศสอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร อดีตแชมป์โลกหมายเลข 20 ต้องเริ่มเกมจากท้ายแถวในกริดที่ 22
เกมเรซนี้เริ่มต้นด้วยสภาพแทร็กแห้ง โดย กวาร์ตาราโร ขยับขึ้นมาเกาะกลุ่มกลางอย่างรวดเร็ว ขณะที่ มอร์บิเดลลี ต่อสู้อย่างหนักเพื่อลุ้นท็อปเท็น จุดเปลี่ยนของเรซเกิดขึ้นในช่วง 8 รอบสุดท้าย เมื่อฝนเริ่มปรอยหนาเม็ดขณะที่ “เรซ ไดเร็กชั่น” อนุญาตให้นักบิดทุกคนเข้ามาเปลี่ยนรถแข่งที่เซ็ตติ้งสำหรับแทร็กฝนได้
มอร์บิเดลลี ตัดสินใจเข้ามาเปลี่ยนรถแข่งก่อนจะบิดเข้าป้ายในอันดับ 14 ขณะที่ กวาร์ตาราโร ค่อยๆ ไล่แซงคู่แข่งไปจนถึงอันดับ 7 แต่กลับโชคร้ายปะทะกับ ลูก้า มารินี นักบิดอิตาเลียนจนรถแข่งเสียหายต้องกลับเข้าพิตมาเพื่อเปลี่ยนรถแข่ง และนำรถแข่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 15
มัสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการ มอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า โมโตจีพี กล่าวว่า “การแข่งขันในวันนี้มันเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา แทร็กแห้งช่วงต้นเรซ เรารู้ดีว่านั่นคือโอกาสไล่ทำอันดับ แต่ก็คาดการณ์ว่าฝนจะตก ขณะที่นักแข่งของเราออกตัวได้ดีทั้งคู่ โดยเฉพาะ ฟาบิโอ เขาไล่แซงขึ้นไปถึงอันดับ 7 แต่การปะทะกับนักแข่งอีกคนทำให้แฟริ่งหลุด นั่นบังคับให้เขาต้องเข้าพิต การคว้าอันดับ 14-15 ไม่ได้แสดงถึงภาพรวมที่แท้จริง เราคู่ควรกับอันดับที่ดีกว่านี้ ตอนนี้เรามองไปถึงเรซต่อไปที่ ออสเตรีย ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า มุ่งมั่นทำงานหนักเพื่อผลงานที่ดีขึ้น”
ศึก โมโตจีพี 2023 สนามถัดไปจะมีขึ้นที่ เรดบูล ริง ประเทศออสเตรีย ระหว่างวันที่ 18-20 สิงหาคมนี้ ในรายการ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์