“ปีนี้เป็นปีที่ผมต้องต่อสู้กับหลายอย่าง และกำลังใจของทุกๆ คนก็ช่วยให้ผมมีแรงฮึดสู้ครับ ผมรู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ ครับ กับกำลังใจที่มอบให้” นักบิดไทยตอบคำถามแรกจาก Motorsportlives
เขามองว่า “กำลังใจจากชาวไทย” ทำให้เขาผ่านหลายๆ สถานการณ์ที่ยากลำบากมาได้
หลังผ่านฤดูกาลที่ 5 ใน โมโตทู และเป็นฤดูกาลที่เขาเติบโตขึ้นอย่างมาก “ก้อง-สมเกียรติ” ให้ “นิยาม” ฤดูกาลนี้ของตัวเองว่าเป็น “ฤดูกาลแห่งการพิสูจน์ตัวเอง”
“ผมมองว่าปีนี้ผมได้พิสูจน์ตัวเองหลายๆ อย่างครับ เป็นปีที่ท้าทายสำหรับผมมาก”
“เราตั้งเป้าว่าจะทำท็อป 5 ในอันดับโลกให้ได้ คือเป้าหมายมันใหญ่มากครับ ดังนั้นมันทำให้เรายิ่งต้องสู้ เรียกได้ว่า เป็นปีที่ผมทำงานหนักมาก และก็ได้ค้นเจอบางอย่างสำหรับยกระดับตัวเอง”
เราจะเห็นได้ชัดว่า “ก้อง” มีความสุขุมมากขึ้นในปีนี้ ลงแข่งอย่างมีสติ มีแผน และไม่บุ่มบ่าม สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้มีปัจจัยมาจากอะไรบ้างครับ?
“ในปีที่แล้ว ปี 2022 ผมเริ่มค้นเจอความเร็วของตัวเอง มันทำให้เรามีความมั่นใจมาก จนบางครั้งก็มากเกินไป แน่นอนว่ามันนำมาซึ่งความผิดพลาด จนพลาดล้มบ่อยครั้ง”
“จริงอยู่ครับที่ผมเก็บมาได้ 4 โพเดียมจากปีที่แล้ว แต่ผมก็เสียไปหลายแต้มจากความบุ่มบ่าม ความใจร้อน”
“นั่นคือประเด็นสำคัญที่ผมได้กลับมาทบทวนตัวเอง มันทำให้ผมทำงานหนักมากขึ้น ออกกำลังกายหนักขึ้น คุยกับทีมงานหนักขึ้น วางแผนการขี่มากขึ้น ใช้สติมากขึ้น และมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ ไม่ทำลายเรซของตัวเอง…”
ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้น… “ก้อง” เองทำงานอย่างใจเย็น ไม่รีบเร่ง ไม่กดดันตัวเอง แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า “ปีนี้ไม่บู๊เหมือนเดิม… ไม่เสี่ยงเหมือนเดิม ขี่เซฟมากเกินไป” เราอยากบอกแฟนๆ ว่าอย่างไรบ้างครับ?
“ใช่ครับ… ปีนี้ผมเปลี่ยนวิธีการทำงานอย่างชัดเจน”
“จริงๆ ก็กดดันครับ (ฮาาา) แต่ผมเป็นคนที่ไม่เก็บแรงกดดันมาสร้างความเครียดให้ตัวเอง และมันก็เปลี่ยนเป็น “แรงกระตุ้น” ไปโดยอัตโนมัติ
“สิ่งที่ผมอยากบอกเหรอครับ… ก็คือสิ่งที่ผมทำให้เห็นแล้วในสนาม ปีนี้เราทำงานกันหนักมาก ไม่ใช่แค่ผมเอง แต่รวมถึงทีมงานด้วย”
“ในทุกสนามเราคิดเสมอว่าต้องจบเรซให้ได้ และต้องจบในอันดับที่ดีโดยไม่เสี่ยงมากเกินไป สนามไหนที่บุกได้ ผมก็ไม่ลังเลที่จะบุก”
สิ่งหนึ่ง Mootorsportlives สังเกตุมาตลอดทั้งฤดูกาล คือ “ไม่ว่าสนามใดก็ตามที่เคยเป็นสนามที่คุณบอกว่าไม่ถนัด และเป็นสนามที่ทำผลงานได้ไม่ดีก่อนหน้านี้ แต่ในปีนี้ผลงานมันสวนทางจากการคาดการณ์ ดีขึ้นมาก ผลงานในสนามมันสะท้อนมาจากอะไรบ้างครับ”?
“ผมไม่เคยหยุดเรียนรู้เลยครับ…”
“สนามที่รู้ว่าเป็นจุดอ่อนของเรา ผมทำงานหนักมากๆ ที่สำคัญคือต้องขอบคุณ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ด้วยครับ เราทำงานไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น นั่นจึงทำให้ผลงานออกมาดีทุกสนาม”
“และผมคิดว่านั่นคือสิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “เราคนไทยก็ทำได้นะ”
ปีนี้เก็บมาได้ 2 โพเดียม… ครั้งแรกคือชัยชนะที่ ญี่ปุ่น พร้อมกับสถิติมากมาย, ครั้งที่ 2 คือที่ บุรีรัมย์ ต่อหน้าแฟนความเร็วชาวไทย ทั้ง 2 ครั้งนี้มันแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ?
“ที่ ญี่ปุ่น เป็นสนามที่ผมมีความเร็วที่ “สมบูรณ์แบบ” มากครับ จริงๆ มันมากกว่าคำว่า “เพอร์เฟ็คต์” ตั้งแต่วันศุกร์แล้ว ทุกครั้งที่ลงสนามผมมีความอุ่นใจมาก”
“การคว้าโพล และชนะการแข่งขันได้ถือเป็นการปลดล็อคของปีนี้จริงๆ ครับ นั่นทำให้ความมั่นใจของผมและทีมกลับมาอย่างเต็มเปี่ยม เราแสดงให้เห็นว่านี่คือรางวัลแห่งการทำงานหนัก”
“แต่การคว้าโพเดียมในประเทศไทยมันแตกต่างกันมากครับ ผมรู้ว่าผมมีความเร็วที่ บุรีรัมย์ แต่มันมีแรงกดดันมหาศาลอยู่ภายใต้หมวกกันน็อค”
“ผมสัมผัสได้ถึงความคาดหวังของแฟนๆ ชาวไทย บอกตามตรงว่าผมประหม่านะครับ… การขี่ต่อหน้าแฟนๆ ชาวไทยในสนามมันรู้สึกกดดันมากๆ
“เชื่อไหมครับ? รอบ วอร์มอัพ ผมประหม่ามาก จนต้องตะโกนในหมวกกันน็อคคนเดียวเพื่อให้ตัวเองสงบ และออกไปทำให้ดีที่สุด”
รู้สึกอย่างไรบ้างครับ? ที่สามารถปลดล็อคตัวเองจนคว้าโพเดียมในโฮมเรซได้สำเร็จ
“มันคือความภาคภูมิใจครับ ภูมิใจกับตัวเอง ภูมิใจกับครอบครัว ภูมิใจกับ ฮอนด้า ที่สร้างผมมาและไม่เคยหันหลังให้ผม และนี่คือรางวัลที่ดีที่สุดที่ผมมอบให้แฟนๆ ชาวไทยได้”
“ถ้าย้อนกลับไปปีที่แล้วทุกคนจะรู้ว่าผมเร็วมาก แต่ปีนี้ผมต้องบอกตัวเองให้มีสติกับการแข่งขัน อยู่กับตัวเอง และทำให้ได้ มันคือความรู้สึกปลดปล่อยครับ…และปีหน้าผมจะทำมันให้ได้อีกครั้ง”
“ก้อง” พอใจกับผลงานในภาพรวมของตัวเองไหมครับกับฤดูกาลนี้ และอันดับ 6 บนแชมเปี้ยนชิพในรุ่น โมโตทู
“แอบเสียดายนิดหน่อยครับ เพราะเป้าหมายของเรามันอยู่แค่เอื้อม
“แต่ในการแข่งขันมันมีปัจจัยหลายอย่าง ซึ่งผมและทีมก็ทำอย่างอย่างสุดความสามารถแล้ว ดังนั้น ปีนี้จะเป็นอีกทีที่เราได้เรียนรู้ และยกระดับผลงานขึ้นไปให้สูงขึ้น”
ปีหน้าจะเป็นฤดูกาลที่ 6 ของ “ก้อง” กับ โมโตทู แล้ว ตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้างครับ?
“เป้าหมายจะสูงขึ้นกว่าเดิมครับ ผมตั้งเป้าที่จะคว้าท็อป 3 ของโลกมาให้ได้ แต่มันก็ไม่ใช่งานง่าย เพราะคู่แข่งก็แข็งแกร่งขึ้นทุกปี
“เราพัฒนาขึ้น คู่แข่งก็พัฒนาขึ้นเหมือนกัน ดังนั้นเราต้องทำงานหนักกว่าเดิม ต้องขอแรงใจจากแฟนๆ ชาวไทยทุกคนล่วงหน้าเลยครับ”
สุดท้ายแล้ว ผมคงไม่ถามคำถามนี้ไม่ได้… ณ ตอนนี้ความฝันในการก้าวขึ้นสู่ โมโตจีพี ของ “ก้อง” เป็นอย่างไรบ้างครับ?
“ก็ยังมีอยู่เหมือนเดิมครับ… ผมคิดว่ามันคือความฝันสูงสุดของนักแข่งมอเตอร์ไซค์ทางเรียบทุกคน ตัวผมเองก็เช่นกัน แต่การจะไปถึงจุดนั้นได้ ผมต้องพิสูจน์ให้เห้เห็นว่าผมดีพอครับ… และถ้าผมเก่งพอผมคิดว่าผมก็มีโอกาสไปถึงความฝันนั้นเหมือนกัน”
“สุดท้ายผมต้องขอบคุณโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” และ “ไทยฮอนด้า” มากๆ ครับ ที่ผลักดันผมอย่างเต็มตัว”
“และไม่ใช่แค่ผม แต่ ไทยฮอนด้า ยังผลักดันนักแข่งรุ่นน้องๆ ที่กำลังเติบโตมาด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ครับ ที่จะได้เห็นนักแข่งไทยโลดเล่นใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ มากขึ้นเรื่อยๆ”
“และขอบอกตรงนี้เลยครับ “ว่าเราไม่ยอมแพ้แน่นอน จนกว่าจะไปถึงฝัน”