ดราม่าของแชมป์โลก 2 สมัยอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า และ อเล็กซ์ มาร์เกซ ถือเป็นอีกครั้งที่หลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจบเรซที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ในมุมที่แตกต่าง และนั่นก็นำไปสู่บรรยากาศคุกรุ่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง 5 รอบสุดท้ายของ อรากอน กรังด์ปรีซ์ เมื่อ บันยาญ่า ชนเข้ากับ อเล็กซ์ มาร์เกซ ทมี่โค้ง 13 และนั่นทำให้ทั้งคู่ไร้แต้มทันที คนที่เสียหายที่สุดคือ “เป็คโก้” ซึ่งกำลังมีลุ้นแชมป์โลกกับ ฮอร์เก มาร์ติน ในขณะนี้
Podium battle ends up in a collision! 😱💥@PeccoBagnaia and @alexmarquez73 find themselves crashing together as they were fighting for P3! 😲#AragonGP 🏁 pic.twitter.com/ZPtejcpu1N
— MotoGP™🏁 (@MotoGP) September 1, 2024
“ผมมองไม่เห็นเขา คนที่จะหลีกเลี่ยงการชนได้มีเพียงคนเดียวคือ เป็คโก้ เพราะเขาคือคนที่ตามหลังผมอยู่” : อเล็กซ์ มาร์เกซ อธิบายถึงเหตุการณ์ปะทะกับ บันยาญ่า ที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน
“เขาคือคนที่พยายามแซง ถ้าเขาเร็วจริง ก็ยังมีจุดอื่นๆ ที่แซงได้ ผมเศร้ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราทั้งคู่ เพราะผมต้องการแค่มีเรซที่ดี และความเร็วคงที่ในการแข่งขัน”
บันยาญ่า กล่าวว่าหลังได้เห็นบทสัมภาษณ์ของ อเล็กซ์ มาร์เกซ ว่า ”ผมไม่เชื่อ ว่าเขา (อเล็กซ์ มาร์เกซ) จะมองไม่เห็นผม“ ฟรานเชสโก บันยาญ่า เผยหลังเห็นบทสัมภาษณ์ของ อเล็กซ์
“ผมใช้ประโยชน์จากการที่ อเล็กซ์ หลุดไลน์ บานออกไป เพื่อแซงขึ้นหน้าเขา และพุ่งเข้าสู่โค้งต่อไปด้วยไลน์ที่กว้างขึ้น เพราะรู้ว่ามีนักแข่งอีกคนในโค้งนั้น“
”มันน่าเสียดายที่ต้องจบลงแบบนั้น เพราะเราเจอสถานการณ์ยากลำบากตลอดทั้งสุดสัปดาห์“
“ผมปวดเนื้อตัวนิดหน่อย โดยเฉพาะหัวไหล่ซ้าย เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นตัวให้เร็วสำหรับสุดสัปดาห์นี้“
“ผมต้องการลืมสุดสัปดาห์นี้”
ขณะเดียวกัน หลังจากที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการขับขี่ (Data) บันยามาฮ่า กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังตรวจสอบจากเดต้า เราพบว่าขณะที่เขาชนผม เขาเปิดคันเร่งอยู่ที่ 40% แต่กลับไม่ยอมหยุดเดินคันแรง เพราะมันถูกเปิดไปจนถึง 60% จนกระทั่งผมหลุดออกจากแทร็ก โดยขณะนั้นผมก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา”
“มันอันตรายมาก”
อย่างไรก็ดี อเล็กซ์ มาร์เกซ ได้ออกมาแถลงการณ์หลังพบว่า บันยาญ่า ให้สัมภาษณ์ถึงเขาอีกครั้ง “หลังจากที่ได้อ่านแถลงการณ์บางอย่างผมคงต้องออกมาอธิบายเพิ่มเติม ผมไม่เคยจงใจชนนักแข่งคนอื่นมาก่อน และผมจะไม่ยอมถูกปรักปรำกับเหตุการณ์ลักษณะนั้น มันไม่ได้อยู่ใน DNA ของผม และไม่ใช่ DNA ในกีฬาประเภทนี้”
“สิ่งสำคัญคือสำหรับผมการพูดคุยระหว่างผมกับ เป็คโก้ เมื่อวันอาทิตย์ ในมุมของผมคืดมันจบแล้ว”
“ตอนนี้คือเวลาต้องพักและฟื้นฟูร่างกายให้ 100% เพื่อลงแข่งที่ มิซาโน”
