Advertisement

ศึกสองล้อชิงแชมป์เอเชีย “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024” เปิดฉากสนามสุดท้ายของปีอย่างสุดเดือดในทุกคลาส ทัพนักบิดไทยผลงานโดดเด่น “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม อาเซียน โชว์ความเก๋าพลิกแซงรอบสุดท้ายคว้าชัยในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต ลุ้นแชมป์เอเชียเต็มตัว ขณะรุ่นใหญ่ชัยชนะเป็นของ แอนดี้ ฟาริซ อิซดิฮาห์ นักบิดอินโดนีเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม พร้อมขยับแซงขึ้นเป็นจ่าฝูง ด้าน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ นักบิดไทยจบที่ 4 ยังมีลุ้นพลิกสถานการณ์ ก่อนตัดสินแชมป์แบบ “ชิงดำ” ทุกรุ่นในเรซที่2 

การแข่งขัน เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้าย ดวลความเร็วเรซที่ 1 วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม 2567 ภายใต้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ดุเดือด เชียร์สนุกทุกคลาส โดยนักบิดไทยก็มีลุ้นทำผลงานยอดเยี่ยมส่งท้ายปีในทุกรุ่น

โดยในรุ่นใหญ่ที่สุดของเอเชียอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี กริดสตาร์ตมี แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์ นักบิดอินโดนีเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท เอสเตโม เป็นเจ้าของตำแหน่งโพล ขนาบข้างด้วยทีมเมทชาวไทยอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของจ่าฝูงบนตารางแชมเปียนชิพอย่าง ยูกิ คูนิ นักบิดชาวญี่ปุ่นจาก เอสดีจี ทีม ฮาร์ค-โปร ฮอนด้า พีเอช ขณะที่ ฮาฟิซ ซยาห์ริน อดีตนักบิดโมโตจีพีชาวมาเลเซียจาก เจดีที เรซซิ่ง ทีม ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 11

เกมเรซนี้ดวลทั้งสิ้น 13 รอบสนาม แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์ ขยับออกตัวได้ยอดเยี่ยมขึ้นมาเป็นผู้นำได้ทันที โดยมี “นครินทร์” นักบิดไทยที่ยังลุ้นแชมป์อยู่ตามหลังในอันดับ 2 ตามด้วย โมฮัมหมัด ซัควาน ไซดี้ ทีมเมทชาวมาเลเซียในอันดับ 3 ขณะที่ ยูกิ คูนิ เจอสถานการณ์ในกลุ่มกลางเล่นงานอย่างหนัก จากการไล่บดของอดีตนักบิดชิงแชมป์โลกอาทิ เท็ตซูตะ นากาชิม่า รวมถึง อาซลัน ชาห์ และ ฮาฟิซ ซยาห์ริน ด้วย

สถานการณ์ในกลุ่มนำไม่มีอะไรพลิกผัน “แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์” บิดนำม้วนเดียวคว้าชัยชนะไปครองด้วยเวลา 20 นาที 44.539 วินาที ตามด้วย ซัควาน ไซดี้อันดับ 2 ตามหลัง 1.617 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ยูกิ คูนิ ที่ขยับแซงผ่านนักบิดไทยอย่าง นครินทร์ ขึ้นมาได้ในช่วง 2 รอบสุดท้าย

หลังผ่านเรซแรกที่ บุรีรัมย์ ตารางคะแนนสะสมมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดย แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาห์ ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสม เหนือ ยูกิ คูนิ 7 คะแนน ขณะที่ “ชิพ” นครินทร์ ยังรั้งอันดับ 4 ตามหลังจ่าฝูง 24 คะแนน ต้องไปตัดสินแชมป์เอเชียอีกครั้งในเรซที่ 2

ด้านการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ต้องมาตัดสินผู้ชนะกันถึงรอบสุดท้าย โดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จ่าฝูงบนตารางคะแนนสะสมชาวไทยจาก ยามาฮ่า เทคนี เรซซิ่ง ทีม อาเซียน ออกสตาร์ตจากโพล แม้จะโดนแซงตกไปเป็นอันดับ 3 ในช่วง 2 รอบสุดท้าย แต่ยังสามารถแซงคืนและบิดคว้าชัยชนะไปครองได้สำเร็จ ด้วยเวลา 20 นาที 2.211 วินาที เหนืออันดับ 2 อย่าง โมฮัมหมัด อะเดนันตา พูตร้า นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม เพียง 0.364 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ มูฮัมหมัด เฮลมี อัซมาน นักบิดมาเลเซียจาก อิเดมิตสึ บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.418 วินาที

ส่วน “ไม้คิว” เกียรติศักดิ์ สิงหพงศ์ ดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบการแข่งขันในอันดับ 6 ตามด้วย “โฟลท” รัฐพงษ์ วิไลโรจน์ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 7, ต่อศักดิ์ นวลสาย จาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี พีทีที ลูบริแคนท์ส อันดับ 11 และ “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลด์ ที่พลาดล้มขณะลุ้นอันดับในกลุ่มนำ ก่อนลุกขึ้นมาคว้าอันดับ 12 โดยหลังจบเรซแรก “แสตมป์” อภิวัฒน์ มีเส้นทางลุ้นแชมป์เอเชียที่สดใส ขยับหนีคู่แข่งอย่าง โมฮัมหมัด อะเดนันต้า พูตร้า ออกไปเป็น 19 คะแนน ก่อนจะตัดสินแชมป์ในเรซที่ 2

ขณะที่การแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี ต้องตัดสินกันด้วยภาพถ่ายที่หน้าเส้นชัย โดยชัยชนะตกเป็นของ มูฮัมหมัด เคียนดร้า รามาดิปา ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 18 นาที 53.236 วินาที เฉือน อาไร อกาสก้า ลัคซาน่า เพื่อนร่วมชาติจาก ยามาฮ่า เรซซิ่ง อินโดนีเซีย อันดับ 2 เพียง 0.159 วินาที ส่วน มูฮัมหมัด แฟโรซี ทีมเมทโดนปรับอันดับจากที่ 2 ลงมาคว้าอันดับ 3 ด้านนักบิดดาวรุ่งชาวไทยไทยอย่าง “ไฮเป็ค” กฤษฎา ธนโชติ จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม จบเรซในอันดับ 5 ตามหลังเพียง 0.362 วินาทีเท่านั้น โดยเกมในรุ่นนี้ต้องตัดสินแชมป์ในเรซที่ 2 เช่นกัน เมื่อ รามาดิปา ขยับขึ้นเป็นจ่าฝูงเหนือทีมเมทอย่าง เฮอร์จุน แอทน่า เฟอร์ดาอุส เพียง 2 แต้มเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันในรุ่นเล็กอย่าง อันเดอร์โบน 150 ซีซี ชัยชนะเป็นของ มูร็อบบิน วิตโตนี นักบิดอินโดนีเซียจาก ยามาฮ่า แอลเอฟเอ็น เอชพี969อินโดนีเซีย เรซซิ่ง ทีม ด้วยเวลา 16 นาที 28.200 วินาที เฉือนเพื่อนร่วมชาติอย่าง อะดิตยา ฟาอูซี จาก เรซเทค ซิกตี้ เรซซิ่ง ทีม อันดับ 2 เพียง 0.079 วินาทีเท่านั้น ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ ฮุสนี ไซนุล ฟูอัดซี นักบิดอินโดนีเซียอีกคนจาก ยามาฮ่า แอลเอฟเอ็น เอชพี969 อินโดนีเซีย เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.271 วินาที

สำหรับเกมในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมค แชมเปียนชิพ เรซแรก ชัยชนะเป็นของ ฮิโรกิ โอโนะ นักบิดญี่ปุ่นด้วยเวลา 14 นาที 56.727 วินาที เฉือน ซาร์ทัค ชาวันนักบิดอินเดียอันดับ 2 เพียง 0.122 วินาทีเท่านั้น ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ อาทิตย์ กังแฮ นักบิดชาวไทยตามหลังเพียง 0.169 วินาที ด้าน “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวลเข้าป้ายอันดับ 6 ตามหลัง 0.779 วินาที

ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปียนชิพ 2024 สนามสุดท้าย จะดวลกันในเรซที่ 2 ปิดฉากสนามสุดท้าย พร้อมฉลองแชมป์ในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 ถ่ายทอดสดทาง PPTVHD36 เริ่ม 14.00 – 16.30 น.หรือรับชมทางออนไลน์ได้ที่เพจ และยูทูป PPTV Sports หรือเพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram เริ่มตั้งแต่ 12.35 น. เป็นต้นไป ซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา ,เว็บไซด์ allticket  หรือซื้อบัตรที่หน้างานบริเวณ โดมแก้ว สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์