Advertisement

“เคทีเอ็ม” วางแผนที่จะยกเลิกทีมในศึก โมโตจีพี ภายใต้การปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2026 หลังเจอวิกฤติทางการเงินเล่นงานอย่างหนัก จากการรายงานล่าสุดของสื่อในประเทศออสเตรีย

“เคทีเอ็ม” มีตัวเลขยอดหนี้พุ่งสูงถึงราว 3 พันล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า “แสนล้านบาท” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการล้มละลาย วิเคราะห์ว่านี่อาจเป็นการล้มละลายครั้งใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ของออสเตรียเลยก็ว่าได้

รายงานก่อนหน้านี้ราว 2 สัปดาห์ โดย Alpine Creditors Association (AKV) เอเจนซี่ผู้ดูแลหนี้ให้กับ เคทีเอ็ม ระบุว่าพวกเขาอาจต้องถอนตัวจาก โมโตจีพี ในปี 2025 เนื่องจากโดนเจ้าหนี้กดดันอย่างหนักให้ยกเลิกการทำทีมใน โมโตจีพี

โดยหวังให้ เคทีเอ็ม ปรับโครงสร้างเพื่อหาเงินมาชำระหนี้ให้กับ “ลูกหนี้” นั่นเอง ทว่าหลังรายงานฉบับดังกล่าวถูกเผยออกมาไม่กี่ชั่วโมง “เพียเรอร์ โมบิลิตี้ กรุ๊ป” เจ้าของกิจการ เคทีเอ็ม ก็แถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พวกเขาจะลงแข่งขันใน โมโตจีพี 2025 อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี Der Standard สื่อในประเทศออสเตรีย ได้รายงานข่าวล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า เคทีเอ็ม จะยกเลิกการทำทีม โมโตจีพี ในปี 2026 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายในสัญญาของ เคทีเอ็ม กับ ดอร์น่า สปอร์ต ในการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์

ตามรายงานของ Der Standard ฝ่ายบริหารของ KTM คาดว่า “หากถอนตัวออกจาก โมโตจีพี ก่อนกำหนด จะสร้างความเสียหายต่อประชาสัมพันธ์อย่างมาก” 

แม้ว่า Brad Binder จะมีสัญญาจนถึงสิ้นปี 2026 แต่ Pedro Acosta, Enea Bastianini และ Maverick Vinales ต่างก็อยู่ในสัญญา “หลายปี”

การวิเคราะห์จาก Boston Consulting Group ชี้ให้เห็นว่าอนาคตของ KTM ยังมีแนวโน้มสดใส ขณะเดียวกันก็ประเมินว่า เคทีเอ็ม อาจประหยัดเงินได้ถึงปีละ 46 ล้านยูโร จากการยกเลิกทีมใน โมโตจีพี

รายงานเบื้องต้นจากการพิจารณาคดีเจ้าหนี้ครั้งแรก เปิดเผยว่าหลายฝ่ายแสดงความสนใจที่จะลงทุนรวม 700 ล้านยูโรในบริษัทที่กำลังประสบปัญหานี้

ขณะที่ พิต บายเรอร์ บอสใหญ่ด้านมอเตอร์สปอร์ตของ เคทีเอ็ม ให้สัมภาษณ์กับ Speedweek ไม่นานมานี้ ว่าแบรนด์ดังกล่าวได้มีการเจรจากับผู้บริหารของ ลูอิส แฮมิลตัน แชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 7 สมัยอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการที่นักขับเฟอร์รารี่รายนี้ จะเข้ามาลงทุนในแบรนด์ของ เคทีเอ็ม

แฮมิลตัน เคยตกเป็นข่าวว่าจะเข้าซื้อทีม เกรซินี เรซซิ่ง ขณะที่ ลิเบอร์ตี้ มีเดีย ยืนยันว่านักขับชาวอังกฤษแสดงความสนใจที่จะซื้อหุ้นทีมของ เคทีเอ็ม จริง

ทั้งนี้ “นักลงทุน” มีเวลาในการตัดสินใจไปจนถึงสัปดาห์ที่ 3 ของ เดือนมกราคม 2025 เกี่ยวกับการยื่นข้อเสนอให้ เคทีเอ็ม โดยเงินจำนวนดังกล่าวมีความสำคัญอย่างมากต่อแผนการปรับโครงสร้างของ เคทีเอ็ม เนื่องจากพวกเขาต้องชำระหนี้ก้อนแรก 30% จากจำนวนทั้งหมด ตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้

สำหรับแผนดังกล่าว จะได้รับการลงคะแนนเสียงจาก “เจ้าหนี้” ของ เคทีเอ็ม ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2025

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง