โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดเฟรนช์จอมตีลังกา เผยเสียใจต่อความเห็นแย่ๆ จาก วาเลนติโน รอสซี่ และ ฟรานโก มอร์บิเดลลี หลังเหตุการณ์ชนสุดน่ากลัวที่ เรดบูลล์ ริง ชี้ไม่ได้ตั้งใจและเคลียร์จนเข้าใจกันแล้ว
มอร์บิเดลลี และ ซาร์โก ชนกันอย่างน่ากลัวในรอบที่ 9 ของ ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ หลังจากที่ทั้งคู่พุ่งออกจากโค้ง 2 โดยล้อหน้าของนักบิดอิตาเลียน ชนเข้ากับล้อหลังของ ซาร์โก อย่างรุนแรง
รถแข่งของซาร์โก พุ่งตรงไปกระแทกรั้วตาข่าย [Fence] ก่อนจะกระดอนกลับมาลอยข้ามโค้ง 3 ส่วนรถแข่งของ มอร์บิเดลลี ที่ถูกทำลายอย่างหนัก กระดอนข้ามในโค้ง 3 เช่นกัน และผ่ากลางระหว่าง วาเลนติโน รอสซี่ และ มาเวริค บีญาเลส โดยไม่กระแทกเข้ากับใครอย่างปาฏิหารย์
มอร์บิเดลลี ถูกหามขึ้นเปลออกจากแทร็ก ก่อนจะนำตัวส่ง ศูนย์การแพทย์ใน เรดบูลล์ ริง เพื่อเช็กอาการบาดเจ็บเบื้องต้น และไม่พบอาการบาดเจ็บที่น่ากังวล และคาดว่าจะสามารถลงแข่งขันใน สติเรียน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์ต่อไปได้
ซาร์โก จบการแข่งขันเรซนี้ท่ามกลางการเสียดสี และวิจารณ์การขับขี่ของเขา ขณะที่ยังไม่มีบทลงโทษใดๆ
นักบิดอวินเทียยืนยันว่าเขาไม่ได้ตั้งใจเปลี่ยนไลน์ด้วยการเบรก และได้พูดคุยเพื่อเคลียร์กับ รอสซี่ แล้วหลังจากที่จอมเก๋าอิตาเลียนได้เข้ามาเตือน พร้อมกับอธิบายว่า “ตนเองไม่ใช่คนบ้า”
“มันแย่มากกับสิ่งที่พวกเขา (รอสซี่ และ มอร์บิเดลลี) คิดกับผม พวกเขาคิดว่าผมต้องใจทำมัน พวกเขาคิดว่าผมต้องการหยุด มอร์บิเดลลี” ซาร์โก กล่าว
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ตอนที่ผมเบรก แน่นอนผมคิดว่าเขาอาจจะแซงผ่านไปได้ แต่ผมไม่ได้คิดที่จะตัดไลน์เพื่อขวางเขา”
“มันบ้าเกินไปที่จะทำแบบนั้น และมันก็อันตรายมาก ซึ่งผมเองก็มีสติพอที่จะจัดการมันตอนที่ผมเบรก และพูดตามตรงว่าผมไม่ได้มีความคิดแย่ๆ แบบนั้นแน่นอน”
“ผมเจอ ฟรานโก ที่ เมดิคัล เซ็นเตอร์ และเราก็กอดดันเพราะเราต่างก็กลัว”
“แต่หลังจากนั้น ผมก็ต้องเศร้าเพราะความคิดเห็นที่เลวร้ายจาก ฟรานโก และ มอร์บิเดลลี ดังนั้น เราจึงใช้เวลาคุยกับ รอสซี่ กว่า 10 นาทีเพื่อเคลียร์ใจกัน”
“ผมสามารถพูดได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้ทุกๆ อย่างดีขึ้นแล้ว มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายมากในการแข่งขัน โชคดีจริงๆ ที่ไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรง”
“ผมเพิ่งคุยกับเขาเกือบ 10 นาที เพื่อให้เขาเข้าใจว่าผมไม่ใช่คนบ้า”