[F1] ตัดเกรดนักขับ F1 สนามล่าสุด “เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์”

0
3973

ศึก ฟอร์มูล่าวัน เพียงผ่านการแข่งขันสนามที่ 7 ไปหมาดๆ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ประเทศเบลเยี่ยม ด้วยชัยชนะอันเฉียบขาดของ ลูอิส แฮมิลตัน แบบม้วนเดียวจบ วันนี้ Motorsportlives.com จะมาตัดเกรดนักขับทุกคนกับผลงานในสนามนี้กันครับ…

ไปดูกันว่าคะแนนของนักขับแต่ละคน จะเป็นไปตามที่ทุกท่านคิดกันหรือเปล่า?

ลูอิส แฮมิลตัน, เมอร์เซเดส – 10

เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ เป้นอีกหนึ่งเรซที่ แฮมิลตัน สร้างผลงานเข้าระดับเพอร์เฟ็คต์เลยก็ว่าได้ เมื่อเขาทำเวลาในรอบควอลิฟายเร็วกว่าทีมเมทอย่าง วัลเตรี บ็อตตาส ถึง 0.5 วินาที ขณะที่นการแข่งขันแชมป์โลกชาวอังกฤษก็ที่ป้องกันการบุกของ บ็อตตาส ในช่วงรีสตาร์ทได้นั้น ก็ออกนำโด่งและรักษาตำแหน่งหัวแถวได้ทั้ง 44 รอบสนาม พร้อมกับคว้าชนะไปครองได้อีกครั้ง

วัลเตรี บ็อตตาส, เมอร์เซเดส – 8

บ็อตตาส ที่ได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 2 ทำเวลาเร็วกว่า แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ที่จ่อท้ายในกริดที่ 3 เพียง 0.015 วินาที แต่นักขับฟินน์ยังสามารถมาปรับปรุงเวลาต่อรอบในการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยม และผลงานของเขาก้ดีพอที่จะทำให้ เมอร์เซเดส เข้าวินที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ แบบ วัน-ทู ได้แบบสบายๆ

เซบาสเตียน เวทเทล, เฟอร์รารี่ – 5

เวทเทล ยังคงดำดิ่งกับผลงานใน เฟอร์รารี่ อย่างต่อเนื่อง ในสนามนี้เขาทำกริดสตาร์ทได้เพียงอันดับที่ 14 ตามหลังทีมเมทอย่าง ชาร์ลส์ เลอแคลร์ อีกแล้ว แถมเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ เฟอร์รารี่ ไม่สามารถทะลุผ่านรอบ Q1 ได้พร้อมกัน และในการแข่งขันวันอาทิตย์ เวทเทล ก็ต้องมาปวดหัวกับ “กลยุทธ์” ของทีมที่ออกจะงงๆ กันต่อไป แถมไม่สามารถจะรีดความเร็วขึ้นมาติดท็อปเท็นได้เลย เรซนี้อดีตแชมป์โลก 4 สมัย ทำได้ดีที่สุดเพียงจบเรซในอันดับ 13 เท่านั้น

ชาร์ลส์ เลอแคลร์, เฟอร์รารี่ – 6

แม้ เลอแคลร์ จะยังคงแสดงให้เห็นว่าแข็งแกร่งกว่า เวทเทล ในขณะนี้ด้วยการทำเวลาเร็วกว่าถึง 0.3 วินาที แต่เขาก็ยังได้ออกตัวจากกริดที่ 13 ในเรซนี้นักขับโมนาโก มีโอกาสขยับขึ้นมาติดท็อปเท็น ทว่าปัญหาที่ เฟอร์รารี่ เจอที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ก็ฉุดให้เขาร่วงลงไปจบเรซในอันดับ 14 ด้วยการเข้าพิต 2 ครั้ง

แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น, เรดบูลล์ เรซซิ่ง – 9

เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ ดูจะเป็นอีกหนึ่งเรซในฤดูกาลนี้ ซึ่ง “น่าเบื่อ” สำหรับการขับเคี่ยวในกลุ่มหน้า เพราะ เวอร์สแท็พเพ่น ที่ได้ออกตัจากกริดที่ 3 ทำได้ดีที่สุดเพียงการบริหารจัดการยาง จากกลยุทธ์การเข้าพิตครั้งเดียวของทีม (เช่นเดียวกับทีมอื่นๆ) แต่นักขับดัตช์ก็ทำเวลาเกาะกับ บ็อตตาส ไม่ห่างตลอดทั้งเรซ พร้อมกับจบการแข่งขันในอันดับ 3 ได้ขึ้นโพเดี้ยม 6 สนามติดต่อกัน ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างเซอไพรส์คือการทำเวลาในรอบควอลิฟายตามหลัง บ็อตตาส เพียง 0.015 วินาทีเท่านั้น

SPA, BELGIUM – AUGUST 28: Alexander Albon of Thailand driving the (23) Aston Martin Red Bull Racing RB16 during practice for the F1 Grand Prix of Belgium at Circuit de Spa-Francorchamps on August 28, 2020 in Spa, Belgium. (Photo by Bryn Lennon/Getty Images) // Getty Images / Red Bull Content Pool // SI202008280364 // Usage for editorial use only //

อเล็กซ์ อัลบอน, เรดบูลล์ เรซซิ่ง – 7

นักขับไทยเริ่มแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในรอบควอลิฟาย โดยสามารถยึดกริดที่ 5 มาครองได้สำเร็จ แม้ว่าจะยังไม่สามารถก้าวข้าม เรซเพซ ของทีมเมทอย่าง เวอร์สแท็พเพ่น ได้ แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีกับ RB16

สิ่งที่ยังคงเป็นจุดอ่อนอย่างมากของ อัลบอน ในฤดูกาล 2020 คือการออกสตาร์ทที่ยังไม่เฉียบขาด โดยนักขับไทยยังไม่สามารถขยับอันดับได้เลยหลังออกตัว และในเรซนี้ก็โดน เอสเตบัน โอคอน แซงผ่านได้ตั้งแต่โค้งที่ 2 แม้จะมาเอาคืนได้ในพิตจากการทำงานที่รวกเร็วของ เรดบูลล์ เรซซิ่ง แต่หลังจากเปลี่ยนยางมีเดียมออกไปวิ่ง ก็มาโดนแซงในรอบสุดท้าย เพราะสภาพยางที่ต้านทานไม่ไหว ฉะนั้นอันดับ 6 ของ อัลบอนในเรซนี้จึงไม่เลวร้ายนัก เพราะเขาเองยังสามารถขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 บนตารางแชมเปี้ยนชิพได้

คาร์ลอส ซายน์ซ, แม็คลาเรน – ไม่มีคะแนน

ซายน์ย ตั้งความหวังอย่างมากในการฝ่าวิกฤติของเขาในฤดูกาลนี้ โดยเขาควอลิฟายมาดีมากด้วยการคว้ากริดที่ 7 ทว่ากลับไม่สามารถลงแข่งขันได้ หลัง แม็คลาเรน ตรวจพบปัญหากับ เพาเวอร์ ยูนิต ซึ่งนำไปสู่ความขัดข้องกับท่อไอเสีย และไม่สามารถปรากฏตัวบนกริดได้

แลนโด้ นอร์ริส, แม็คลาเรน – 8

นอร์ริส ต้องจ่ายให้กับความผิดพลาดราคาแพงสำหรับการแข่งขันช่วงแรกที่ทำให้เขาร่วงลงไปหลายอันดับ ทว่าหลังจากที่ตั้งตัวได้นักขับจอมทะเล้นก็ไล่กวดแซงคู่แข่งขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง แถมช่วงท้ายมีโอกาสชิงอันดับ 6 จาก อัลบอน ด้วย ทว่าเวลาที่เหลือไม่เพียงพอ ทำให้อันดับ 7 ของ นอร์ริส ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของเขาเลยก็ว่าได้

แดเนียล ริคคิอาร์โด, เรโนล – 9

ริคคิอาร์โด พา เรโนลต์ ทะยานขึ้นมาฟัดในกลุ่มท็อป 5 ได้อย่างยอดเยี่ยม ในเรซนี้นักขับออสเตรเลียนคว้ากริดที่ 4 มาครองแทรกกลางระหว่างคู่หูเรดบูลล์ แถมในการแข่งขัน ริคคิอาร์โด ยังหนีการไล่ล่าของ อัลบอน ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับรักาาอันดับ 4 ในเรซนี้ได้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนั้นยังสามารถคว้าแต้มโบนัสจากการทำ “ฟาสเตสต์ แล็ป” อีกด้วย

เอสเตบัน โอคอน, เรโนลต์ – 8

เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ นับเป็นอีกหนึ่งสุดสัปดาห์ที่ โอคอน สร้างผลงานได้อย่างแข็งแกร่ง เขาออกสตาร์ทยอดเยี่ยมจากกริดที่ 6 ขยับแซง อัลบอน ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเสียอันดับไปในการเข้าพิต แต่ช่วงท้าย โอคอน ยังอาศัยความได้เปรียบของยาง ไล่บี้แซง อัลบอน ขึ้นมาคว้าอันดับ 5 ได้ในรอบสุดท้าย

ปิแอร์ แกสลีย์, อัลฟาทาวรี – 9

แกสลีย์ แสดงให้เห็นถึงความกระหายอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ หลังตัดสินใจออกสตาร์ทด้วยางฮาร์ด นักขับเฟรนช์ก้เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ความฮอตของเขาถูกหยุดด้วย เซฟตี้คาร์ ในช่วงต้นเกม เรซนี้ แกสลีย์ ไล่แซงคู่แข่งสุดระห่ำคว้าอันดับ 8 ไปครอง

ดานีล ควียาท, อัลฟาทาวรี – 7

ควียาท ทำเวลาในรอบควอลิฟายเร็วกว่า แกสลีย์ เป็นครั้งแรกในฤดูกาล แต่ในการแข่งขันเขาต้องเจอความวุ่นวายของกลุ่มกลาง ทั้งช่วงแรกของเรซ และหลังรีสตาร์ท ทำให้ไม่สามารถขยับขึ้นมาติดท็อปเท็นได้ แม้จะไม่มีแต้ม แต่อันดับ 11 ในเรซนี้ ก็เป็นสัญญาณที่ดีของนักขับรัสเซียนเลยก็ว่าได้

แลนซ์ สตรอลล์, เรซซิ่ง พอยต์ – 6

สตรอลล์ กับรถแข่ง เรซซิ่ง พอยต์ หลังจากที่โดนประท้วงอย่างหนักจาก เรโนลต์ และทีมอื่นๆ ดูเหมือนศักยภาพของพวกเขาจะลดลงฮวบฮาบ และที่ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ก็เป็นอีกหนึ่งเรซที่เหนได้ชัดเจนมาก แต่นักขับแค่นาเดี้ยนก็คว้าแต้มมาได้จากการจบเรซในอันดับ 9

เซอร์จิโอ เปเรซ, เรซซิ่ง พอยต์ – 7

เปเรซ กลับมาจากอาการป่วยโควิด-19 พร้อมกับสมรรถนะที่ถดถอยลองของรถแข่ง เรซซิ่ง พอยต์ จุดเปลี่ยนของ เปเรซ ในเรซนี้คือช่วงออกสตาร์ทที่ไม่ดีนัก แถมหลังรีสตาร์ทยังต้องเจองานหนักในกลุ่มกลาง แต่นักขับเม็กซิกันยังไล่ขึ้นมาจบเรซในอันดับ 10 ได้

คิมิ ไรค์โคเน่น, อัลฟาโรมิโอ – 10

เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์ คือเรซที่แสดงให้เห็นว่า ไรค์โคเน่น ยังคงเป้นนักขับที่มีของดีในตัวอย่างล้นเหลือ นักขับฟินน์ออกสตาร์ทจากกริดที่ 16 แต่รอบแรกเขาทะยานขึ้นมาถึงอันดับ 11 และแซงสวยๆ หลายครั้ง โดยเฉพาะการบู๊กับอดีตทีมเมทอย่าง เวทเทล ก่อนที่จะคว้าอันดับ 12 มาครอง เหนือคู่หูเฟอร์รารี่

อันโตนิโอ จิโอวินาซซี, อัลฟาโรมิโอ – 4

จิโอวินาซซี ต่อสู้กับทีมเมทอย่าง ไรค์โคเน่นไม่ได้เลย ในรอบควอลิฟายเขาคว้ากริดที่ 18 ช้ากว่าทีมเมท 0.2 วินาที แถมในการแข่งขันยังเป็นต้นเหตุให้เกิดธงแดง หลังพลาดท่าหมุนขณะที่ขับไปได้เพียง 10 รอบสนามเท่านั้น

โรแมง โกรส์ฌอง, ฮาส – 8

โกรส์ฌอง ต้องต่อสุ้อย่างหนักกับรถแข่งที่เป็นรองคู่แข่งอยู่หลายขุม เรซนี้นักขับเฟรนช์ได้ออกตัวจากกริดที่ 17 เร็วกว่าทีมเมทอย่าง เควิน แม็กนุสเซ่น ถึง 0.5 วินาที ก่อนจะควบคุมเรซเพซได้ดี จบเรซในอันดับ 15

เควิน แม็กนุสเซ่น, ฮาส – 5

แม็กนุสเซ่น ผิดพลาดตั้งแต่รอบ Q1 เขาต้องออกสตาร์ทจากท้ายแถว และจบการแข่งขันในอันดับ 17 เป็นอันดับบ๊วยของ เบลเจี้ยน กรังด์ปรีซ์

จอร์จ รัสเซล, วิลเลียมส์ – 7

รัสเซล พารถแข่งวิลเลียมส์ ทะลุเข้าสู่ Q2 ได้อีกครั้ง และเขาออกสตาร์ทได้ดีทว่าโชคไม่ดีที่โดนล้อรถแข่งของ จิโอวินาซซี หลุดมาชนทำให้ต้องรีไทร์ไปตั้งแต่รอบที่ 11

นิโคลาส ลาติฟี, วิลเลียมส์ -6

ลาติฟี ยังคงไม่มีอะไรโดดเด่นในสนามนี้ เขาได้ออกตัวจากกริดที่ 19 แถมในเรซก็ยังทำได้ดีที่สุดเพียงการขับให้จบเรซเท่านั้น โดยเรซนี้นักขับมือสองของ วิลเลียมส์ จบการแข่งขันในอันดับ 16