โปล เอสปาร์กาโร [Pol Espargaro] นักบิดสแปนิชจากทีมโรงงาน เคทีเอ็ม ยอมรับรถแข่ง RC16 มีพัฒนาการก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา แต่ยัง “เหลิง” ไม่ได้ เพราะกริดสตาร์ท โมโตจีพี 2020 ปราศจากนักบิดที่ดีที่สุดอย่าง มาร์ค มาร์เกซ [Marc Marquez] ลงแข่งขัน

คลิกเพื่อฟังข่าวหากไม่มีเวลาอ่าน

เคทีเอ็ม สร้างผลงานอย่างก้าวกระโดดในการแข่งขัน โมโตจีพี 2020 ด้วยการมีลุ้นโพเดี้ยมทุกสนามหลังเปิดฤดูกาล จากนั้นพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะครั้งแรกได้จาก แบรด บินเดอร์ ในศึก เช็ก กรังด์ปรีซ์ และได้ฉลองแชมป์อีกครั้งในศึก สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ จากการบิดของ มิเกล โอลิเวียร่า

ทว่า โปล เอสปาร์กาโร นักบิดสแแปนิชจาก เรดบูลล์ เคทีเอ็ม แฟ็คตอรี เรซซิ่ง ทีม กลับมีมุมมองที่แตกต่างจากการวิเคราะห์ของหลายฝ่าย โดยเขาเชื่อว่าการที่จะพิสูจน์ความคืบหน้าในการพัฒนาของรถแข่ง RC16 ได้นั้น จะต้องวัดกันในตอนที่ มาร์ค มาร์เกซ อยู่ในสนามด้วย

โดย โปล เอสปาร์กาโร กล่าวว่ามันคือเรื่องจริงที่ในเวลานี้ เคทีเอ็ม พัฒนาขึ้นอย่างมากจากปีที่ผ่านมา และมีลุ้นโพเดี้ยมตลอดทุกสนามหลังเปิดฤดูกาล

มาร์เกซ หวังที่จะลงบิดในปีนี้ให้ได้อย่างน้อย 1-2 สนาม

อย่างไรก็ดี การขาดหายไปของ มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกพรีเมียร์คลาส 6 สมัย จากการล้มรุนแรงจนแขนหักในสนามแรกที่ เฆเรซ ก็ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์โลกในปีนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

“ผมไม่ต้องการมองอะไรในแง่ลบ เพราะผมเองเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ แต่เอาจริงๆ ตอนนี้นักบิดที่ดีที่สุดไม่ได้อยู่บนกริดสตาร์ทกับพวกเรา” โปล เอสปาร์กาโร กล่าว

“ผมมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเสมอ เขาไม่ได้อยู่บนแทร็ก และก็ไม่รู้ว่าถ้าเขาลงแข่งเขาจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะ นาคากามิ ก็เร็วสุดๆ แน่นอนว่า มาร์ค ต้องเร็วกว่าเขาอยู่แล้ว”

“พวกเรา (เคทีเอ็ม) กำลังอยู่ในช่วงที่ดี สิ่งนี้คือความจริง แต่มันคือสถานการณ์จริงๆ หรือเพราะมีตัวแปรบางอย่าง? นี่คือคำถามของผมที่ผุดขึ้นมา และคำตอบคือผมเองก็ยังไม่รู้”

“ผมต้องลงแข่งอีกหลายสนามเพื่อดูว่าสถานการณ์จริงๆ เป็นเช่นไร ในการแข่งขันที่ เฆเรซ เราทำกันได้ไม่ดีเลย แต่ที่ เบอร์โน และ เรดบูลล์ ริง เรามีผลงานที่ดีขึ้นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงต้องรักษามาตรฐานของเราไว้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป และยังไม่เหลิงกับผลงานแค่ 2 สนาม”