“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ดาวบิดอิตาเลียนจอมเก๋าวัย 41 ปี จาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ออกโรงชี้ชัด “การแช่แข็งเครื่องยนต์ในปี 2021” ไม่ควรเป็นข้ออ้างของ “ยามาฮ่า” ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเครื่องยนต์ซึ่งเจอมรสุมอย่างหนักในตอนนี้
ภายใต้ข้อตกลงการลดค่าใช้จ่ายของค่ายผู้ผลิตในช่วง โควิด-19 ทำให้ทีมผู้ผลิตทุกทีมจะออกสตาร์ทฤดูกาล 2021 ด้วยแคมเปญเครื่องยนต์สเป็คปัจจุบันลงทำการแข่งขัน
ยามาฮ่า ประสบปัญหาอย่างหนักเกี่ยวกับเครื่องยนต์ โดยหลังจบ 2 สนามแรกที่ เฆเรซ ค่ายผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นยื่นคำร้องไปยัง “สมาคมผู้ผลิตโมโตจีพี” (MSMA) เพื่อขอเปิดเครื่องยนต์มาแก้ไข “ระบบวาล์ว” ที่เชื่อว่ามีปัญหามาจากซัพพลายเออร์ ก่อนที่จะถอดคำร้องไปในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ดี ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน ยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์, เอฟไอเอ็ม ได้ประกาศลงโทษ ยามาฮ่า เกี่ยวกับเครื่องยนต์ โดยระบุว่า “วาล์ว” ในเครื่องยนต์ที่ใช้ลงแข่งขัน สแปนิช กรังด์ปรีซ์ นั้นไม่เหมือนกับที่ยื่นสเป็คให้กับฝ่ายเทคนิค โมโตจีพี ทำให้พวกเขาโดนตัดคะแนนทีมผู้ผลิตถึง 50 แต้ม รวมถึงคะแนนประเภททีมของ มอนสเตอร์ ยามาฮ่า และ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ที่ได้จากสนามนั้น
แม้นักบิดของพวกเขาจะไม่โดนลงโทษตัดแต้มจากสนามดังกล่าว ทว่าทั้ง รอสซี่, มาเวริค บีญาเลส, ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร และ ฟรานโก มอร์บิเดลลี นั้นก็เจอปัญหาเครื่องยนต์เล่นงานมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ บีญาเลส เพิ่งโดนลงโทษสตาร์ทจากพิตเลน ในศึก ยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์ หลังทีมต้องเปลี่ยนเครื่องยนต์ตัวที่ 6 เกินโควต้ามาเป้นครั้งแรก
“การแช่แข็งเครื่องยนต์ (สำหรับปี 2021) ไม่ควรเป็นข้องอ้าง” รอสซี่ กล่าวหลัง ยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์ ด้วยปัญหาเครื่องยนต์ในรอบที่ 5
“ใน โมโตจีพี ตอนนี้ คุณสามารถทำอะไรได้เยอะแยะรอบๆ เครื่องยนต์ เพื่อพัฒนาศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์, การบริหารเพื่อเก็บความสดใหม่ของเครื่องยนต์, การเก็บเครื่องยนต์ในอุณภูมิต่ำ หรือจะเป็นการปรับดีไซน์ของท่อไอเสีย”
“ดังนั้น หากคุณไม่สามารถทำอะไรกับภายในเครื่องยนต์ได้ คุณก็จะมีแนวทางอื่นที่สามารถปรับปรุงมันได้”
“สำหรับผม หาก ยามาฮ่า สามารถทำงานกันได้ดี และถูกทิศทาง เราจะสามารถมีผลงานที่ดีกว่านี้ได้”