มาเวริค บีญาเลส นักบิดพ่อลูกอ่อนชาวสแปนิชจาก มอนเตอร์ ยามาฮ่า เผยว่าเขายังไม่ได้ทดสอบ “แชสซีส์ใหม่” แต่ค่อนข้างประหลาดใจกับ “ศักยภาพ” ของ M1 เก่าที่ทำได้ในการลงวิ่ง “ระยะยาว” เสมือนการแข่งขันจริงที่ กาตาร์ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

บีญาเลส จบการทดสอบด้วยการตามหลังทีมเมทอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร อยู่ 0.455 วินาที โดยเจ้าตัวรั้งอันดับ 7 บนตารางเวลารวมของ กาตาร์ เทสต์ แต่เขาเป็นหนึ่งในนักบิดไม่กี่คนที่ได้ทดลองวิ่งในระยะยาว

นักบิดสแปนิชมีจังหวะการขับขี่ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แม้จะผิดพลาดล้มไปเล็กน้อยที่โค้ง 2 ในวันอาทิตย์ โดยสามารถทำเวลาต่อรอบเฉลี่ยช้าสุดที่ 1.55 นาที และ เร็วสุดอยู่ที่ 1.54 นาที ภายใต้ M1 ที่มีการเซ็ตติ้งส่วนใหญ่คล้ายคลึงกับในปี 2020

มาเวริค บีญาเลส

บีญาเลส เผยว่าการทำงานหลักๆ ของเขาส่วนใหญ่ในวันอาทิตย์เน้นไปที่สไตล์การขับขี่ และเซ็ตอัพระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบของตัวเองมากขึ้น และตัวเขาเองก็รู้สึกค่อนข้างประหลาดใจกับ “เพซ” ที่ทำได้บนแทร็กที่ไม่มีการยึดเกาะ ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่มีมาตลอดของเขาเอง และ ยามาฮ่า ในช่วงหลายปีหลัง

“จริงๆ แล้วเรายังไม่ได้ทำงานกับ แชสซีส์ใหม่” บีญาเลส กล่าว พร้อมกับอธิบายว่า “เราลงทดสอบกับรถแข่งแพ็คเกจเก่า และชิ้นส่วนทั่วไป 2-3 อย่างในรถแข่งคันที่สอง”

“ผมทำงานหนักกับสไตล์การขับขี่ และมุ่งเน้นกับการหาเวลาต่อรอบที่ดี”

“แน่นอนว่าสิ่งที่เราทำคือไม่พยายามเคร่งเครียดมากนักบนรถแข่ง พยายามหาการทำงานที่ไหลลื่นมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องของ อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น จึงมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ”

“นั่นคือคำตอบว่าทำผมจึงมีสถานการณ์เป็นบวก เพราะเมื่อการยึดเกาะเริ่มหายไป (แทร็ก กาตาร์ ในช่วง 18.00-20.00 จะมีฝุ่นเยอะ) ผมได้เห็นหลายสิ่งที่น่าสนใจในการปรับสไตล์การขับขี่ ผมแฮปปี้มากกับการทดสอบครั้งนี้ และผมแทบจะอดใจรอไม่ไหวกับดารทดสอบครั้งต่อไป”

“พูดตามตรงว่าผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์ในช่วงครึ่งวันของการทดสอบ เพราะผมสามารถขี่ได้เร็วถึง 1 นาที 54 วินาที และสิ่งนี้มันค่อนข้างจะเป็นบวกตลอดทั้งวัน เพราะการยึดเกาะไม่ดีแต่ผมยังสามารถขี่ได้ดีและเร็วมาก”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง